กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ

ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ

... 13 กุมภาพันธ์ 2568
ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาระบบแพทย์ทางไกลเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาความจำและการเคลื่อนไหวในระยะเริ่มต้น งานวิจัยนี้ตอบสนองต่อความท้าทายหลายประการในระบบสาธารณสุขปัจจุบัน ปัญหาความแออัดของโรงพยาบาลและการระบาดของโควิด-19 ทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพเป็นเรื่องยาก ระบบแพทย์ทางไกลจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุซึ่งมักต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง และอาจมีข้อจำกัดด้านการเดินทาง

งานวิจัยนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือและเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล (HIS) เพื่อให้แพทย์สามารถเข้าถึงประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องมือวัดและตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น การประเมินความเสี่ยงในการล้ม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยใช้เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ (wearable technologies) เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ และกล้องวีดีโอ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย และนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์โดยใช้ machine learning เพื่อทำนายความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทดสอบระบบในกลุ่มตัวอย่าง 710 คน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดบางประการ เช่น ความแตกต่างในทักษะการใช้เทคโนโลยีของผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลต่อการใช้งานระบบ และความจำเป็นในการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการพัฒนาเครื่องมือคาดการณ์ความเสี่ยงในการล้มในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันและอัลไซเมอร์ ซึ่งต้องการข้อมูลขนาดใหญ่และการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ การขยายการใช้งานไปยังพื้นที่อื่นๆนอกเหนือจากกรุงเทพฯก็เป็นสิ่งที่ควรทำต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จุดแข็งของงานวิจัยนี้คือการบูรณาการเทคโนโลยีต่างๆเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การพัฒนาแอปพลิเคชัน การใช้ wearable technologies จนถึงการนำ machine learning มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้สามารถสร้างระบบที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้งานและการวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานระบบ ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของผู้สูงอายุและสามารถปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การขยายกลุ่มตัวอย่างให้ครอบคลุมผู้สูงอายุกลุ่มอื่นๆและพื้นที่ต่างๆ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับงานวิจัยนี้มากขึ้น รวมถึงการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาความแม่นยำของเครื่องมือคาดการณ์ความเสี่ยงในการล้ม

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ (MedTech) อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เหตุผลคือ:

  • อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ (MedTech): งานวิจัยนี้พัฒนาระบบแพทย์ทางไกลและเครื่องมือวัดทางการแพทย์ ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ได้ เช่น แอปพลิเคชันสำหรับแพทย์ อุปกรณ์สวมใส่สำหรับผู้สูงอายุ และระบบวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์
  • อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ: ระบบแพทย์ทางไกลที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้สูงอายุ ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโรงพยาบาล คลินิก และหน่วยงานดูแลผู้สูงอายุ
  • อุตสาหกรรมโทรคมนาคม: ระบบแพทย์ทางไกลต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่แข็งแกร่ง การพัฒนาระบบนี้จึงสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาบริการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ได้ เช่น การส่งข้อมูลทางการแพทย์ การประชุมทางไกลระหว่างแพทย์และผู้ป่วย

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับแพทย์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) นักวิจัยด้านสุขภาพ และวิศวกรซอฟต์แวร์ เหตุผลคือ:

  • แพทย์และพยาบาล: สามารถใช้ระบบแพทย์ทางไกลเพื่อติดตามและดูแลผู้สูงอายุ ลดภาระงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist): สามารถนำข้อมูลจากระบบแพทย์ทางไกลมาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาโมเดลการทำนายความเสี่ยง และปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น
  • นักวิจัยด้านสุขภาพ: สามารถนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอด เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบแพทย์ทางไกล และพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ
  • วิศวกรซอฟต์แวร์: สามารถพัฒนาและปรับปรุงระบบแพทย์ทางไกล ให้มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

 

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 5748
หัวหน้าโครงการ : ศ.นพ. พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อพัฒนาระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุและทดสอบความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีและการแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ2. เพื่อนำเทคโนโลยีและระบบการประสานงานที่พัฒนาแล้ว (แสนสุขสมาร์ทซิตี้) มาปรับใช้ในบริบทของผู้สูงอายุที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะปัญหา ความจำและการเคลื่อนไหวในระยะต้น เพื่อเป็นโครงการนำร่องไปสู่การขยายผลไปใช้กับผู้สูงอายุกลุ่มอื่นๆ เช่น ผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติเล็กน้อยของ ความสามารถของสมอง (Benign forgetfulness / MCI) และที่เป็นพาร์กินสันและอัลไซเมอร์ เป็นต้น โดยการพัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงก่อนเกิดเหตุการณ์เพื่อการป้องกัน เช่น ปัจจัยหรือตัวชี้วัดที่บ่งว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการพลัดตกหกล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุ และพัฒนาตัวชี้วัดทาง สุขภาพ เพื่อนำมาประกอบการดูแลรักษาทางการแพทย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันอาศัยการเก็บข้อมูล จากประวัติเป็นหลัก การนำตัวชี้วัดมา ประกอบจะทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น

ศ.นพ. พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์. (2563). ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, ปราจีนบุรี, พิษณุโลก, ระยอง, สกลนคร, สงขลา.

ศ.นพ. พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์. 2563. "ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, ปราจีนบุรี, พิษณุโลก, ระยอง, สกลนคร, สงขลา.

ศ.นพ. พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์. "ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563. กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, ปราจีนบุรี, พิษณุโลก, ระยอง, สกลนคร, สงขลา.

ศ.นพ. พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์. ระบบแพทย์ทางไกลสำหรับการดูแลรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้สูงอายุ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2563. กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, เชียงราย, เชียงใหม่, ปราจีนบุรี, พิษณุโลก, ระยอง, สกลนคร, สงขลา.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา