การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ" นี้ มุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ โดยอาศัยหลักการจัดการโลจิสติกส์เป็นฐานสำคัญ งานวิจัยนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การศึกษาสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก้าวไปสู่การออกแบบและพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของงานวิจัยชิ้นนี้
จุดเด่นประการแรกคือ การสังเคราะห์งานวิจัยและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบก่อนหน้านี้ นี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจบริบทของปัญหาอย่างลึกซึ้ง การศึกษาผลงานวิจัยก่อนหน้านี้ช่วยลดการทำซ้ำ และสามารถระบุช่องว่างความรู้ที่งานวิจัยนี้จะเข้ามาเติมเต็มได้ นั่นคือการนำหลักการโลจิสติกส์มาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งงานวิจัยก่อนหน้านี้ยังขาดการเชื่อมโยงในส่วนนี้ ซึ่งทำให้มองไม่เห็นปัญหาและสาเหตุของนักท่องเที่ยวในเชิงโลจิสติกส์อย่างแท้จริง นำไปสู่การสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
ประการที่สองคือ การออกแบบและพัฒนาการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ครอบคลุมด้านการขนส่ง การตลาด และการเงิน การคำนึงถึงด้านโลจิสติกส์อย่างครบถ้วนนี้ ช่วยให้สามารถวางแผนเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสม จัดการการขนส่งนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการวางแผนด้านการเงินเพื่อให้เกิดความยั่งยืน การบูรณาการองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ประการที่สามคือ การนำแอปพลิเคชัน "มาตะ เมืองลุง" มาต่อยอด เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารจัดการ แอปพลิเคชันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางการรวบรวมข้อมูลสำคัญเพื่อการวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง การวิจัยนี้ยังได้ทดสอบและประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน และได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาต่อไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและการดำเนินงานตามขั้นตอนวิจัยอย่างถูกต้อง
ประการสุดท้ายคือ การจัดทำแผนการยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง แผนการนี้จะช่วยให้ชุมชนท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การมีแผนที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีทิศทาง และสามารถติดตามประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้วิธีการเก็บข้อมูลทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ เช่น การประชุมกลุ่มสัมภาษณ์และแบบสอบถามออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงความครอบคลุมของข้อมูล และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลการวิจัย การทดลองเส้นทางท่องเที่ยวจริงร่วมกับชุมชน ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมโยงกับภาคปฏิบัติ และเพิ่มโอกาสที่แผนการนี้จะประสบความสำเร็จ
โดยสรุป งานวิจัยชิ้นนี้มีความโดดเด่นในด้านการบูรณาการองค์ประกอบต่างๆ อย่างครบวงจร การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยว แต่จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง งานวิจัยนี้สามารถนำไปปรับใช้กับพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศและทรัพยากรที่คล้ายคลึงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ริมทะเล พื้นที่ภูเขา หรือพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และชุมชนท่องเที่ยวที่ต้องการยกระดับการบริหารจัดการ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน และสามารถนำไปปรับใช้กับการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้ไปใช้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น บริษัทขนส่ง หรือบริษัททัวร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ และลดต้นทุนการดำเนินงาน
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น เจ้าของธุรกิจที่พัก เจ้าของร้านอาหาร ไกด์นำเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักวางแผนการท่องเที่ยว นักวิเคราะห์ข้อมูล และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการท่องเที่ยว งานวิจัยนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และสามารถนำความรู้ไปปรับปรุงการดำเนินงานของตนเอง เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับนักศึกษาและนักวิจัยที่สนใจด้านการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เนื่องจากงานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการวิจัยเชิงประยุกต์ ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ และอาจเป็นแรงบันดาลใจในการทำวิจัยในหัวข้อที่เกี่ยวข้องต่อไป
| รหัสโครงการ : | 7282 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางทัศนีย์ ประธาน |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อสังเคราะห์ผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบลุ่มน้ำทะเลสาบ 2. เพื่อออกแบบและพัฒนาการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยว การขนส่ง การตลาดและการเงิน 3. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบด้วยการต่อยอดแอปพลิเคชัน “มาตะ เมืองลุง” 4. เพื่อจัดทำแผนการยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ |
นางทัศนีย์ ประธาน. (2563). การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่. นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา.
นางทัศนีย์ ประธาน. 2563. "การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ". มหาวิทยาลัยหาดใหญ่. นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา.
นางทัศนีย์ ประธาน. "การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ". มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, 2563. นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา.
นางทัศนีย์ ประธาน. การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์การท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่; 2563. นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา.