การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ" นับเป็นงานวิจัยที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมุ่งแก้ปัญหาสำคัญหลายประการพร้อมกัน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม งานวิจัยนี้ได้พัฒนาอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาโดยใช้ น้ำยางพาราเป็นสารยึดเกาะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากน้ำยางพาราเป็นวัสดุที่มีความอุดมสมบูรณ์ในประเทศไทย การนำน้ำยางพารามาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจึงช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร และลดการพึ่งพาวัสดุก่อสร้างจากต่างประเทศได้อีกด้วย
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการผสมผสานองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างลงตัว การออกแบบส่วนผสมที่เหมาะสม การออกแบบเครื่องอัดขึ้นรูป และการทดสอบคุณสมบัติเชิงกลและกายภาพตามมาตรฐาน มอก.77-2545 แสดงถึงความรอบคอบและความแม่นยำในการดำเนินงานวิจัย ผลการวิจัยที่ได้แสดงให้เห็นว่าอิฐมอญที่ผลิตได้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน ทั้งในแง่ความแข็งแรง ความทนทาน และคุณสมบัติทางกายภาพอื่นๆ เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความสำเร็จของงานวิจัยนี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนของผนังก่ออิฐที่สร้างจากอิฐมอญแบบไม่เผา โดยเปรียบเทียบกับอิฐมอญแบบเผา แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติทางความร้อนที่เหนือกว่าของอิฐมอญแบบไม่เผา ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการลดต้นทุนด้านพลังงาน และส่งเสริมการก่อสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตที่แสดงให้เห็นว่าการผลิตอิฐมอญแบบไม่เผาสามารถทำได้ในเชิงอุตสาหกรรม และมีราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าวัสดุก่อสร้างชนิดอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานวิจัยชิ้นนี้มีความน่าสนใจ และมีศักยภาพในการนำไปใช้ในทางปฏิบัติได้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น การลดมลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 เขม่าควัน และก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาอิฐ เป็นประโยชน์อย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน การผลิตที่สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องทุกฤดูกาล ทำให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาวัสดุก่อสร้างใหม่ แต่ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม โดยคำนึงถึงมิติของสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เช่น การทดสอบความทนทานในระยะยาว การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ในวงกว้าง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผลงานวิจัยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพ ราคาถูก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมเกษตรกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางพารา เพราะการนำน้ำยางพารามาใช้เป็นวัสดุหลัก จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพารา และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร นอกจากนี้ ยังสามารถต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เช่น อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล และอุตสาหกรรมออกแบบและตกแต่งภายใน เนื่องจากการมีวัสดุก่อสร้างใหม่ที่มีคุณภาพสูง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น ช่างก่อสร้าง ผู้รับเหมา วิศวกรโยธา และสถาปนิก เนื่องจากอิฐมอญแบบไม่เผาที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพดี ราคาประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความแตกต่าง และเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ และยังเหมาะสมกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพราะจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางพารา และสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย รวมถึงผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีจากงานวิจัยนี้ ไปต่อยอดสร้างอาชีพใหม่ เช่น การผลิตและจำหน่ายอิฐมอญแบบไม่เผา
| รหัสโครงการ : | 7172 |
| หัวหน้าโครงการ : | นายณฐพงศ์ จันทร์เพ็ชร์ |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | การวิจัยในโครงการนี้เพื่อประยุกต์ใช้น้ำยางพาราซึ่งเป็นวัสดุพอลิเมอร์จากธรรมชาติมาผสมเพิ่มเพื่อปรับปรุงสมบัติของอิฐมอญแบบไม่ต้องเผา โดยมี วัตถุประสงค์ในการทดสอบสมบัติ ดังนี้3.1 เพื่อพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ3.2 เพื่อศึกษาคุณสมบัติทางกลของอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ3.3 เพื่อศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพของอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ3.4 เพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติทางกลและทางกายภาพของอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาที่ปรับปรุง วัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติกับอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาที่ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพ |
นายณฐพงศ์ จันทร์เพ็ชร์. (2563). การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา.
นายณฐพงศ์ จันทร์เพ็ชร์. 2563. "การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา.
นายณฐพงศ์ จันทร์เพ็ชร์. "การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, 2563. นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา.
นายณฐพงศ์ จันทร์เพ็ชร์. การพัฒนาคุณภาพอิฐมอญแบบไม่ต้องเผาด้วยวัสดุพอลิเมอร์จากน้ำยางธรรมชาติ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ; 2563. นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา.