กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์

การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่

... 27 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยเรื่อง "การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่" นี้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาอัตราการรอดต่ำของลูกอ๊อดกบในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์กบขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัญหาหลักคือการเพาะเลี้ยงในบ่อดินภายในแปลงนาข้าวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ทำให้เกิดการสูญเสียผลผลิตจำนวนมาก งานวิจัยนี้จึงนำเสนอแนวทางแก้ไขโดยการถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่ ซึ่งมีข้อดีหลายประการ คือ ราคาถูก ติดตั้งง่าย ทำความสะอาดง่าย และสำคัญที่สุดคือ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมในบ่อดิน

การนำชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่เข้ามาใช้ ถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงกบจากวิธีการแบบดั้งเดิม ไปสู่วิธีการที่ทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้สามารถควบคุมคุณภาพน้ำ อุณหภูมิ และความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ลดโอกาสการระบาดของโรค และเพิ่มอัตราการรอดของลูกอ๊อด นอกจากนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการเพาะเลี้ยงกบตามหลักปฏิบัติที่ดีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (GAP) ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรเข้าใจถึงกระบวนการเพาะเลี้ยงที่ถูกสุขลักษณะ และได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ การสร้างเกษตรกรต้นแบบขึ้นมาก็เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพราะจะทำให้เกิดการขยายผลสู่เกษตรกรรายอื่นๆได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่ เช่น วัสดุที่ใช้ในการสร้าง ขนาดและความจุของชุดเพาะฟัก ระบบการควบคุมอุณหภูมิและคุณภาพน้ำ และต้นทุนในการผลิต รายละเอียดเหล่านี้มีความสำคัญในการประเมินความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของนวัตกรรม การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับงานวิจัย และทำให้สามารถนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ การวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น การเพิ่มขึ้นของผลผลิต การลดลงของต้นทุน และการเพิ่มขึ้นของรายได้ของเกษตรกร ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในการนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ การศึกษาความยั่งยืนของโครงการ เช่น การดูแลรักษาชุดเพาะฟักกบระยะยาว และการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่านวัตกรรมนี้จะสามารถสร้างผลกระทบในระยะยาวได้อย่างแท้จริง รวมถึงการสำรวจความพึงพอใจของเกษตรกรหลังจากการใช้งานชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเหมาะสมของการนำนวัตกรรมไปใช้

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับ อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกบ เนื่องจากงานวิจัยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยงกบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำเสนอนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกอ๊อด ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิต นอกจากนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่อง GAP ยังช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิต และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกบในภาพรวม การขยายผลสู่เกษตรกรรายอื่นๆและชุมชนอื่นๆ ก็จะช่วยขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกบ โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการเพาะเลี้ยงกบเป็นอาชีพหลัก เช่น เกษตรกรในจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากงานวิจัยนำเสนอวิธีการเพาะเลี้ยงกบที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร นอกจากนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่อง GAP ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตกบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น อาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกบ เช่น ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก หรือโรงงานแปรรูปกบ ก็สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 38387
หัวหน้าโครงการ : ผศ. ดร. วิภาวี ไทเมืองพล
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : เพื่อถ่ายทอดการติดตั้งและใช้งานชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงกบตามหลักปฏิบัติที่ดีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงกบบ้านสระสี่เหลี่ยม ตำบลหนองบัวแก้ว อำเภอพยัคฆ์ภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อสร้างเกษตรกรต้นแบบโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนสำหรับใช้เป็นฐานการเรียนรู้เพื่อขยายผลไปยังเกษตรกรและชุมชนอื่นต่อไป

ผศ. ดร. วิภาวี ไทเมืองพล. (2563). การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. .

ผศ. ดร. วิภาวี ไทเมืองพล. 2563. "การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่". มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. .

ผศ. ดร. วิภาวี ไทเมืองพล. "การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่". มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2563. .

ผศ. ดร. วิภาวี ไทเมืองพล. การถ่ายทอดนวัตกรรมชุดเพาะฟักกบแบบเคลื่อนที่. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2563. .

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา