การพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งเป็นงานวิจัยเชิงประยุกต์ที่ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ความสำคัญของงานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นจากความเปราะบางของภาคการท่องเที่ยวไทยต่อวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือการก่อการร้าย เหตุการณ์เหล่านี้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงักอย่างรุนแรง งานวิจัยนี้จึงตอบโจทย์ความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างความพร้อมรับมือและฟื้นตัวจากวิกฤตต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการวิจัยเริ่มจากการศึกษาและวิเคราะห์คู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติจากประเทศต้นแบบ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ประเทศในกลุ่มแคริเบียน และกลุ่มประเทศ OIC การเปรียบเทียบนี้ช่วยให้เห็นถึงความแตกต่างในรายละเอียดของการแบ่งระยะการปฏิบัติและการจัดตั้งองค์กร แม้จะมีความแตกต่างในรายละเอียด แต่หลักการพื้นฐาน ประเด็นสำคัญ และองค์ความรู้ที่จำเป็นกลับมีความสอดคล้องกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการนำมาปรับใช้และต่อยอดสำหรับประเทศไทย
นอกจากนี้ งานวิจัยยังวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสถาบันของการบริหารจัดการวิกฤติในประเทศไทย โดยพบว่ากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามประเภทของวิกฤติ ส่งผลให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารจัดการ งานวิจัยจึงเสนอแนะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการวิกฤติภาคการท่องเที่ยว โดยควรทำงานประสานกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารร่วม (Joint Information Center: JIC) เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ข้อเสนอแนะที่สำคัญคือการพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติที่ชัดเจนและครอบคลุม คู่มือนี้ควรระบุแนวทางการจัดตั้งองค์กรปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน กลไกการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ และแผนการปฏิบัติการในแต่ละระยะ ซึ่งจะช่วยให้การรับมือกับวิกฤติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยนี้จึงไม่เพียงแต่ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม โดยมุ่งหวังให้ภาคการท่องเที่ยวไทยมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับวิกฤติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีคู่มือที่ครอบคลุมและเป็นระบบจะช่วยลดความเสียหาย ฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการจัดประชุมกลุ่มย่อย ซึ่งเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาประเด็นที่ซับซ้อนและต้องการความเข้าใจเชิงลึก ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาแผนงาน นโยบาย และกลยุทธ์ในการบริหารจัดการวิกฤติของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีความมั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากงานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความเปราะบางต่อวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือเหตุการณ์ทางการเมือง คู่มือที่พัฒนาขึ้นจะช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถรับมือกับวิกฤตเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหาย และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ งานวิจัยยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อวิกฤตได้เช่นกัน เช่น อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมโรงแรม และอุตสาหกรรมบันเทิง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลากรในหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการวิกฤติและการท่องเที่ยว เช่น เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยว ผู้บริหารในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นักวางแผนการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ด้านการจัดการภัยพิบัติ คู่มือที่พัฒนาขึ้นจากงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อบุคคลเหล่านี้ในการเตรียมพร้อมรับมือและจัดการกับสถานการณ์วิกฤติต่างๆ ช่วยให้พวกเขาสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
| รหัสโครงการ : | 7297 |
| หัวหน้าโครงการ : | ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | แผนงาน หรือชุดโครงการ |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความแตกต่างของคู่มือประเทศต้นแบบในการบริหารสถานการณ์วิกฤติและองค์ประกอบการบริหารสถานการณ์วิกฤติของประเทศไทย2. เพื่อศึกษารูปแบบการบริหารสถานการณ์วิกฤติและคู่มือการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานการณ์วิกฤติ3. เพื่อทบทวนและทดสอบความสมบูรณ์ของคู่มือการบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย4. เพื่อพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย |
ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช. (2563). การพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช. 2563. "การพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย". มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช. "การพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย". มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2563. กรุงเทพมหานคร.
ผศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช. การพัฒนาคู่มือบริหารสถานการณ์วิกฤติในการจัดการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2563. กรุงเทพมหานคร.