การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาให้มีสมบัติที่หลากหลายด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวา ด้วยการเคลือบสารไคโตซานผสมน้ำมันตะไคร้หอม ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากผักตบชวาเป็นวัชพืชที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม การนำมาใช้ประโยชน์จึงเป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ การเลือกใช้ไคโตซานเป็นสารเคลือบนั้นเป็นการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์ การเติมน้ำมันตะไคร้หอมเข้าไปยิ่งช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการไล่ยุง ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความโดดเด่นและมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายขึ้น
ขั้นตอนการวิจัยแสดงให้เห็นถึงความเป็นระบบ เริ่มจากการเตรียมและทดสอบสมบัติของสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม โดยระบุสัดส่วนของส่วนผสม (น้ำมันตะไคร้หอม 15% ในสารละลายไคโตซาน) และวิธีการเตรียม (การปั่นที่ความเร็วสูง 40,000 รอบต่อนาที) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความละเอียดรอบคอบในการควบคุมคุณภาพของสารเคลือบ การทดสอบเสถียรภาพของสารเคลือบเป็นระยะเวลา 168 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการตรวจสอบความคงทนของสารเคลือบก่อนนำไปใช้งาน การทดสอบสมบัติของผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เคลือบด้วยสารดังกล่าว โดยเน้นประสิทธิภาพในการต้านทานจุลินทรีย์และการไล่ยุง แสดงให้เห็นถึงการวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ผักตบชวา) มาใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ควบคู่กับการใช้สารธรรมชาติ (ไคโตซานและน้ำมันตะไคร้หอม) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านผักตบชวาไม้ตรา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหวังในการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชน ทำให้การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การวิจัยมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในด้านต่อไปนี้: การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต เพื่อประเมินความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ การศึกษาความคงทนของสารเคลือบภายใต้สภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่น การซักล้าง การสัมผัสกับแสงแดด และความชื้น การขยายผลการวิจัยไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เช่น การใช้เส้นใยผักตบชวาในรูปแบบต่างๆ หรือการออกแบบลวดลายที่สวยงาม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ในตลาด การศึกษาความเป็นพิษของสารเคลือบ เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารเคลือบกับสารเคลือบชนิดอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เพื่อพิสูจน์ความได้เปรียบของสารเคลือบที่พัฒนาขึ้น
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ และอุตสาหกรรมสินค้าไล่ยุง เหตุผลคือ:
-
อุตสาหกรรมสิ่งทอ: งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับเส้นใยผักตบชวา ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกระบวนการผลิตสิ่งทอได้ การเคลือบด้วยสารไคโตซานและน้ำมันตะไคร้หอมจะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เช่น คุณสมบัติในการต้านทานจุลินทรีย์และการไล่ยุง ทำให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีมูลค่าเพิ่มและมีความแตกต่างในตลาด
-
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ: งานวิจัยนี้ใช้ทั้งเส้นใยผักตบชวา ไคโตซาน และน้ำมันตะไคร้หอม ซึ่งล้วนเป็นวัสดุจากธรรมชาติ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่นิยมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษและน่าสนใจ
-
อุตสาหกรรมสินค้าไล่ยุง: คุณสมบัติในการไล่ยุงของน้ำมันตะไคร้หอมเป็นจุดเด่นของงานวิจัยนี้ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ได้จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นสินค้าไล่ยุง เช่น มุ้ง ผ้าคลุมเตียง หรือเสื้อผ้า ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อน
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพนักวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอ, นักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุ, วิศวกรสิ่งทอ, ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เหตุผลคือ:
-
นักวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอ/นักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุ: งานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งเป็นงานที่เหมาะสมกับนักวิจัยที่สนใจในด้านนี้ การศึกษาต่อยอดงานวิจัยนี้สามารถสร้างผลงานวิชาการใหม่ๆได้
-
วิศวกรสิ่งทอ: วิศวกรสิ่งทอสามารถนำความรู้และประสบการณ์มาปรับปรุงกระบวนการผลิต และออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาที่เคลือบด้วยสารไคโตซานและน้ำมันตะไคร้หอมให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง
-
ผู้ประกอบการ SME: ผู้ประกอบการ SME สามารถนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ เช่น การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาที่มีคุณสมบัติพิเศษ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และสร้างงานในชุมชน
-
เกษตรกร: เกษตรกรสามารถนำความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผักตบชวา และการแปรรูปมาใช้ประโยชน์ สร้างรายได้จากการขายวัตถุดิบให้แก่ผู้ประกอบการ
| รหัสโครงการ : | 7286 |
| หัวหน้าโครงการ : | ดร. อัญญพร บุญมหิทธิสุทธิ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1.เตรียมและทดสอบสมบัติต่าง ๆ ของสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม2.เตรียมและทดสอบสมบัติต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาที่เคลือบด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม3.เพิ่มมูลค่าและสร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวา4.ถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในการเตรียมสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอมเพื่อเคลือบบนเส้นใยผักตบชวาสำหรับงานผลิตภัณฑ์สิ่งทอแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านผักตบชวาไม้ตรา |
ดร. อัญญพร บุญมหิทธิสุทธิ์. (2563). การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาให้มีสมบัติที่หลากหลายด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.
ดร. อัญญพร บุญมหิทธิสุทธิ์. 2563. "การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาให้มีสมบัติที่หลากหลายด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร.
ดร. อัญญพร บุญมหิทธิสุทธิ์. "การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาให้มีสมบัติที่หลากหลายด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563. กรุงเทพมหานคร.
ดร. อัญญพร บุญมหิทธิสุทธิ์. การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเส้นใยผักตบชวาให้มีสมบัติที่หลากหลายด้วยสารเคลือบไคโตซาน/ตะไคร้หอม. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2563. กรุงเทพมหานคร.