การปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่นำมาผลิตเป็นน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานีที่มีผลต่อความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันตัวเองจากการได้รับโลหะหนักในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้ศึกษาการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่ใช้ผลิตน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี โดยเน้นพื้นที่อำเภอเมือง ร่อนพิบูลย์ สิชล (นครศรีธรรมราช) และกาญจนดิษฐ์ (สุราษฎร์ธานี) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเหมืองแร่และการทิ้งขยะที่อาจเป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อน งานวิจัยมีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการ คือ การศึกษาคุณภาพน้ำบาดาลทั้งทางเคมี ฟิสิกส์ และชีวภาพ การศึกษาการกระจายตัวของโลหะหนักต่างๆ (As, Cd, Cr, Cu, F, Fe, Mn, Pb, Ni, Zn) ในน้ำบาดาล การศึกษาความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการบริโภคน้ำบาดาล พืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ในพื้นที่ปนเปื้อน และการศึกษาพฤติกรรมการป้องกันตัวเองของประชาชนหลังได้รับโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ
การวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลครอบคลุมพารามิเตอร์ทางกายภาพ เคมี (รวมทั้งไอออนโลหะหนัก) และชีวภาพ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงการปนเปื้อนโลหะหนักหลายชนิดเกินค่ามาตรฐานในน้ำบาดาลของพื้นที่ศึกษา โดยเฉพาะสารหนู ตะกั่ว และแคดเมียม ซึ่งเป็นโลหะหนักที่มีความเป็นพิษสูงต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังพบการปนเปื้อนทางจุลชีววิทยาในบางพื้นที่ งานวิจัยได้ขยายขอบเขตไปยังการศึกษาการปนเปื้อนโลหะหนักในพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ โดยใช้ค่า Chronic daily intake (CDI) เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการบริโภคอาหารเหล่านี้ ผลการวิเคราะห์ปัสสาวะของนักเรียนและประชาชนในพื้นที่พบโลหะหนักสะสมในร่างกาย โดยระดับความเข้มข้นแตกต่างกันไปตามพื้นที่ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมกับการสะสมในร่างกาย
ส่วนที่น่าสนใจคือการทดลองแบบกึ่งทดลอง ซึ่งศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันการได้รับโลหะหนัก พบว่ากลุ่มทดลอง (อำเภอสิชล) มีการรับรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและวิธีการป้องกันที่ดีขึ้นหลังเข้าร่วมโปรแกรมเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (อำเภอกาญจนดิษฐ์) งานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชากรในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนโลหะหนัก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมมลพิษ การปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่ม และการส่งเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ข้อจำกัดของงานวิจัยอาจอยู่ที่ขนาดกลุ่มตัวอย่างและระยะเวลาการติดตามผล ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการสรุปผลในเชิงสถิติได้อย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้เป็นฐานข้อมูลที่สำคัญสำหรับการวางแผนการจัดการและแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาล และการส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อไป
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมน้ำดื่ม: งานวิจัยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการผลิตน้ำดื่ม ข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีการบำบัดน้ำ การกำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำ และการตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
-
อุตสาหกรรมเกษตรกรรม: งานวิจัยศึกษาการปนเปื้อนโลหะหนักในพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ข้อมูลนี้ช่วยให้อุตสาหกรรมเกษตรกรรมสามารถวางแผนการผลิต การเลือกพื้นที่เพาะปลูก และการควบคุมการปนเปื้อนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัย และสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร
-
อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปนเปื้อนโลหะหนักในสิ่งแวดล้อม ข้อมูลนี้สำคัญสำหรับการวางแผนการจัดการสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน และการพัฒนาเทคโนโลยีในการกำจัดมลพิษ รวมถึงการประเมินความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม
-
อุตสาหกรรมสุขภาพ: ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการได้รับโลหะหนักสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง การตรวจสุขภาพ และการรักษาโรคที่เกิดจากการได้รับโลหะหนัก รวมถึงการพัฒนากระบวนการส่งเสริมสุขภาพสำหรับประชากรในพื้นที่เสี่ยง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลากรในหลายอาชีพ อาทิ:
-
นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม: สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ศึกษาวิจัย และพัฒนาเทคนิคการตรวจวัด การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนโลหะหนัก
-
นักวิชาการสาธารณสุข: ข้อมูลช่วยในการวางแผน การดำเนินงาน และการประเมินผลของโครงการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการเฝ้าระวังสุขภาพในพื้นที่เสี่ยง
-
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข: ใช้ข้อมูลในการให้ความรู้ การให้คำแนะนำ และการส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
-
นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร: ข้อมูลการปนเปื้อนในพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง การควบคุมคุณภาพ และการพัฒนาเทคนิคการผลิตอาหารที่ปลอดภัย
-
นักธรณีวิทยา: ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการปนเปื้อนสามารถนำมาใช้ในการศึกษา วิเคราะห์ และวางแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
| รหัสโครงการ : | 7210 |
| หัวหน้าโครงการ : | รศ.ดร. สัณหวัช ไชยวงศ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อศึกษาคุณภาพทางเคมี กายภาพ ชีวภาพ ของน้ำบาดาลที่นักเรียนและประชาชนบริโภคในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู2. เพื่อศึกษาสถานการณ์การกระจายตัวของโลหะหนัก (As, Cd, Cr, Cu, F, Fe, Mn, Pb, Ni, Zn) ในน้ำบาดาลในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู3. เพื่อศึกษาความเสี่ยงทางด้านสุขภาพจากการบริโภคน้ำบาดาล พืชผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู4. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันตัวเองของนักเรียนและประชาชนจากการได้รับโลหะหนักหลังการได้รับโปรแกรมความเชื่อด้านสุขภาพในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู |
รศ.ดร. สัณหวัช ไชยวงศ์. (2563). การปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่นำมาผลิตเป็นน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานีที่มีผลต่อความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันตัวเองจากการได้รับโลหะหนักในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี.
รศ.ดร. สัณหวัช ไชยวงศ์. 2563. "การปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่นำมาผลิตเป็นน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานีที่มีผลต่อความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันตัวเองจากการได้รับโลหะหนักในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู". มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี.
รศ.ดร. สัณหวัช ไชยวงศ์. "การปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่นำมาผลิตเป็นน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานีที่มีผลต่อความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันตัวเองจากการได้รับโลหะหนักในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู". มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, 2563. นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี.
รศ.ดร. สัณหวัช ไชยวงศ์. การปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำบาดาลที่นำมาผลิตเป็นน้ำดื่มในโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานีที่มีผลต่อความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันตัวเองจากการได้รับโลหะหนักในพื้นที่ปนเปื้อนสารหนู. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์; 2563. นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี.