การเตรียมและความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดร่วมกับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้ศึกษาการผลิตครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดโดยใช้เทคนิคการทำแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Drying) ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในการเอนแคปซูเลชันสารอาหารหรือสารที่มีความไวต่อความร้อนและออกซิเจน จุดเด่นของน้ำมันอะโวคาโดคือความอุดมสมบูรณ์ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม น้ำมันอะโวคาโดมีข้อเสียคือเสื่อมคุณภาพง่ายเนื่องจากการออกซิเดชัน การใช้เทคนิคการทำแห้งแบบพ่นฝอยจึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยรักษาคุณภาพและความคงตัวของน้ำมันอะโวคาโด โดยการห่อหุ้มน้ำมันอะโวคาโดไว้ในเม็ดผง ป้องกันการสัมผัสกับออกซิเจนและความชื้น
งานวิจัยนี้ได้ทดลองใช้สารเพิ่มความคงตัวต่างๆ เช่น มอลโตเดกซ์ตรินและกัมอะราบิก เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของครีมเทียมผง นอกจากนี้ยังมีการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ คือ เอทิลเฟอรูเลท เพื่อยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันและยืดอายุการเก็บรักษา การทดลองมุ่งเน้นไปที่การหาสูตรและสภาวะที่เหมาะสม โดยวัดค่าต่างๆ เช่น ความหนืด ความชื้น กิจกรรมน้ำ ประสิทธิภาพการกักเก็บสาร ค่าเปอร์ออกไซด์ (PV) ค่าแอนไอโซเมอร์ (p-AV) ค่าโททอกซ์ (TOTOX) ค่ากรดไขมันอิสระ (AV) ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมด (TPC) ค่าการยับยั้ง DPPH และค่า FRAP ค่าเหล่านี้บ่งบอกถึงคุณภาพ ความคงตัว และประสิทธิภาพของการเอนแคปซูเลชัน
ผลการวิจัยพบว่าสูตรที่ใช้สารเคลือบมอลโตเดกซ์ตรินและกัมอะราบิกในอัตราส่วนที่เหมาะสม ร่วมกับการเติมเอทิลเฟอรูเลท ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อิมัลชันมีความคงตัวสูง ไม่มีการแยกชั้น ผลิตภัณฑ์มีค่าความชื้นต่ำ กิจกรรมน้ำต่ำ และมีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำมันอะโวคาโดสูง นอกจากนี้ ยังมีค่า PV, p-AV, และ TOTOX ต่ำ บ่งชี้ถึงการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันต่ำ และมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง แสดงถึงประสิทธิภาพที่ดีในการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของผงครีมเทียมอะโวคาโดเป็นทรงกลม พื้นผิวเรียบ ไม่มีรอยแตก ซึ่งเป็นลักษณะที่ต้องการของไมโครแคปซูลที่ผลิตจากวิธีการทำแห้งแบบพ่นฝอย
งานวิจัยนี้มีข้อดีคือ การนำน้ำมันอะโวคาโดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก การใช้เทคนิคการทำแห้งแบบพ่นฝอย ซึ่งเป็นเทคนิคที่คุ้นเคยในอุตสาหกรรมอาหาร และการศึกษาผลของการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเพิ่มความคงตัวของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอาจขาดการศึกษาในระยะยาวเกี่ยวกับความคงตัวของผลิตภัณฑ์ เช่น การศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของผลิตภัณฑ์เมื่อเวลาผ่านไป หรือการทดสอบภายใต้สภาวะการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน การขยายผลงานวิจัยไปสู่การทดลองในระดับอุตสาหกรรม การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต จะเป็นประโยชน์ต่อการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์นมทางเลือก (Plant-based dairy) และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เหตุผลคือ งานวิจัยนี้ได้พัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับครีมเทียมจากนมวัว สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการทางเลือกอาหารสุขภาพ ผู้บริโภคกลุ่มมังสวิรัติ หรือผู้ที่มีปัญหาแพ้แลคโตส นอกจากนี้ น้ำมันอะโวคาโดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันอะโวคาโด อุตสาหกรรมอาหารสามารถนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ปรับปรุงกระบวนการผลิต และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรอาหาร นักเทคโนโลยีอาหาร และนักวิจัยด้านอาหาร เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางด้านอาหาร เช่น การเลือกใช้วัตถุดิบ การออกแบบสูตร การเลือกใช้วิธีการผลิต การวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของผลิตภัณฑ์ และการตีความผลวิจัย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างนวัตกรรมทางด้านอาหาร หรือผู้ที่สนใจธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ เนื่องจากงานวิจัยนี้เสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีศักยภาพทางการตลาด
| รหัสโครงการ : | 13776 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางสาวกัญญามณฑ์ เพ็ชร์สีสม |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยมหิดล |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อศึกษาหาสูตรและสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดที่ผ่านการเอนแคปซูเลชันด้วยวิธีการทำแห้งแบบพ่นฝอย2. เพื่อเปรียบเทียบความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดที่ผ่านการเอนแคปซูเลชันเพียงอย่างเดียวกับที่ผ่านการเอนแคปซูเลชันร่วมกับการเติมเอทิลเฟอรูเลท3. เพื่อเปรียบเทียบองค์ประกอบของกรดไขมันและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของผลิตภัณฑ์ครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดที่ผ่านการเอนแคปซูเลชันเพียงอย่างเดียวกับที่ผ่านการเอนแคปซูเลชันร่วมกับการเติมเอทิลเฟอรูเลท |
นางสาวกัญญามณฑ์ เพ็ชร์สีสม. (2563). การเตรียมและความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดร่วมกับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ. มหาวิทยาลัยมหิดล. เชียงใหม่, นครปฐม.
นางสาวกัญญามณฑ์ เพ็ชร์สีสม. 2563. "การเตรียมและความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดร่วมกับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ". มหาวิทยาลัยมหิดล. เชียงใหม่, นครปฐม.
นางสาวกัญญามณฑ์ เพ็ชร์สีสม. "การเตรียมและความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดร่วมกับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ". มหาวิทยาลัยมหิดล, 2563. เชียงใหม่, นครปฐม.
นางสาวกัญญามณฑ์ เพ็ชร์สีสม. การเตรียมและความคงตัวต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของครีมเทียมผงจากน้ำมันอะโวคาโดร่วมกับการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ. มหาวิทยาลัยมหิดล; 2563. เชียงใหม่, นครปฐม.