กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี

การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation)

... 20 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยเรื่อง "การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต" นี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวัสดุอัลคาไลจากทรัพยากรท้องถิ่นอย่างเถ้าลอยและปูนซีเมนต์ เพื่อใช้เป็นทางเลือกในการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต งานวิจัยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ การนำวัสดุอัลคาไลไปใช้ในการซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตประเภทต่างๆ เช่น เสา คาน และพื้น และการพัฒนาวัสดุอัลคาไลให้เป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีต

ส่วนแรกของงานวิจัยศึกษาประสิทธิภาพของวัสดุอัลคาไลในการซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตภายใต้แรงกดอัดและแรงดัด โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดพื้นที่ที่ต้องซ่อมแซม อัตราส่วนความสูงต่อความกว้างของเสา อัตราส่วนความหนาของวัสดุอัลคาไลต่อความหนาของพื้น และขนาดของคาน การศึกษาเชิงลึกนี้ช่วยให้เข้าใจถึงความเหมาะสมและประสิทธิภาพของวัสดุอัลคาไลในการซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตในสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตวัสดุอัลคาไลกับวัสดุซ่อมแซมที่ใช้กันทั่วไปในตลาดปัจจุบัน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความคุ้มค่าของเทคโนโลยีนี้

ส่วนที่สองของงานวิจัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาวัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่นเพื่อใช้เป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีต งานวิจัยศึกษาความคงทนต่อการทำลายของคลอไรด์ เปรียบเทียบประสิทธิภาพกับสารเคลือบอื่นๆ ที่ใช้ในตลาด และพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนชั้นที่เคลือบ ประเภทของเหล็กเสริม (เหล็กใหม่และเหล็กที่เป็นสนิม) และวิธีการเคลือบผิว การทดสอบการรับน้ำหนักของคานและเสาคอนกรีตที่เคลือบด้วยวัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่น เปรียบเทียบกับโครงสร้างที่ไม่เคลือบ ช่วยยืนยันประสิทธิภาพของวัสดุอัลคาไลในการยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างคอนกรีต

โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของวัสดุอัลคาไลในการเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง ทั้งในด้านการซ่อมแซมและการป้องกันการกัดกร่อนของโครงสร้างคอนกรีต การทดลองที่ครอบคลุมหลายปัจจัย การเปรียบเทียบกับวัสดุและเทคโนโลยีที่มีอยู่ และการวิเคราะห์ต้นทุน ทำให้ผลลัพธ์ของงานวิจัยมีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะยาวของประสิทธิภาพของวัสดุอัลคาไลภายใต้สภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระบวนการผลิตวัสดุอัลคาไลก็เป็นอีกประเด็นที่ควรได้รับการพิจารณา

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการซ่อมแซมและบำรุงรักษาโครงสร้างคอนกรีต เนื่องจากวัสดุอัลคาไลที่พัฒนาขึ้นในงานวิจัยนี้มีศักยภาพในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการซ่อมแซม นอกจากนี้ ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัสดุก่อสร้าง เช่น อุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ เถ้าลอย และสารเคมี ซึ่งสามารถนำผลการวิจัยไปปรับปรุงกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อุตสาหกรรมการขนส่ง เช่น การซ่อมแซมสะพาน ทางด่วน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ก็จะได้รับประโยชน์จากงานวิจัยนี้ เพราะสามารถใช้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตที่เสียหาย

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคลากรในหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษาโครงสร้างคอนกรีต เช่น วิศวกรโยธา วิศวกรโครงสร้าง ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และช่างเทคนิค วิศวกรโยธาสามารถนำความรู้เกี่ยวกับวัสดุอัลคาไลไปใช้ในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในการก่อสร้าง ผู้ควบคุมงานก่อสร้างสามารถใช้ข้อมูลจากงานวิจัยนี้เพื่อควบคุมคุณภาพของงานซ่อมแซม และช่างเทคนิคสามารถนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานซ่อมแซมจริง นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์วัสดุ และบุคลากรในสถาบันวิจัย ที่ต้องการศึกษาและพัฒนาวัสดุอัลคาไลต่อไป รวมถึงบุคลากรในอุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายวัสดุอัลคาไล

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation)
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 13728
หัวหน้าโครงการ : รองศาสตราจารย์ ดร. ธนากร ภูเงินขำ
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : โครงการวิจัยย่อยที่ 1 การประยุกต์ใช้วัสดุอัลคาไลเป็นวัสดุซ่อมแซมในงานก่อสร้าง เพื่อศึกษาการใช้วัสดุอัลคาไลซ่อมแซมเสาคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อถูกแรงกระทำภายใต้แรงกดอัด ในแกน โดยพิจารณาปัจจัยของพื้นที่ที่ต้องซ่อมแซมที่เกิดขึ้นเนื่องจากแรงที่กระทำ และอัตราส่วนความสูงของเสาคอนกรีตเสริมเหล็กต่อความกว้างของเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อศึกษาการใช้วัสดุอัลคาไลซ่อมแซมพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อถูกแรงกระทำภายใต้แรงดัด โดยพิจารณาปัจจัยของอัตราส่วนความหนาของวัสดุอัลคาไลต่อความหนาของพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อศึกษาการใช้วัสดุอัลคาไลซ่อมแซมคานคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อถูกแรงกระทำภายใต้แรงดัด โดยพิจารณาปัจจัยของพื้นที่ที่ต้องซ่อมแซมที่เกิดขึ้นเนื่องจากแรงที่กระทำ และขนาดของคานคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อศึกษาความคุ้มทุนในการลงทุนผลิตวัสดุอัลคาไลเพื่อใช้เป็นวัสดุซ่อมแซมกับวัสดุซ่อมแซมที่นิยมใช้ในตลาดปัจจุบัน และได้เทคโนโลยีและสร้างองค์ความรู้การผลิตวัสดุอัลคาไลสำหรับงานซ่อมแซมโครงการวิจัยย่อยที่ 2 การพัฒนาวัสดุอัลคาไลเป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีต เพื่อศึกษาความคงทนต่อการทำลายของคลอไรด์ของเหล็กเสริมในคอนกรีตเมื่อใช้วัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่นเป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีตด้วยวิธีกัลวานิกคาโทดิก (Galvanic Cathodic Protection) เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีตที่นิยมใช้ในตลาดปัจจุบัน โดยพิจารณาปัจจัยของจำนวนชั้นที่เคลือบผิว และประเภทของเหล็กเสริมที่นำมาใช้ เหล็กที่ยังไม่เป็นสนิมและเหล็กที่เป็นสนิมแล้ว และศึกษาปัจจัยของการเคลือบผิวคอนกรีตเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบผลการทดสอบการเคลือบผิวเหล็กเสริมในคอนกรีต เพื่อศึกษาการใช้วัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่นเป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคานคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ไม่ได้เคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคานคอนกรีต เพื่อพิจารณาความสามารถการรับน้ำหนักของคานคอนกรีตที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาปัจจัยของประเภทของเหล็กเสริมที่นำมาใช้ เหล็กที่ยังไม่เป็นสนิมและเหล็กที่เป็นสนิมแล้ว (คานคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 0.10x0.20x1.00 เมตร) เพื่อศึกษาการใช้วัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่นเป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับเสาคอนกรีตเสริมเหล็กที่ไม่ได้เคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในเสาคอนกรีต เพื่อพิจารณาความสามารถการรับน้ำหนักของเสาคอนกรีตที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาปัจจัยของประเภทของเหล็กเสริมที่นำมาใช้ เหล็กที่ยังไม่เป็นสนิมและเหล็กที่เป็นสนิมแล้ว (เสาขนาด 0.15x0.15x0.75 เมตร) เพื่อศึกษาความคุ้มทุนในการลงทุนผลิตวัสดุอัลคาไลผสมเรซิ่นเมื่อใช้เป็นสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีตเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีตที่นิยมใช้ในตลาดปัจจุบัน

รองศาสตราจารย์ ดร. ธนากร ภูเงินขำ. (2563). การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. นครราชสีมา.

รองศาสตราจารย์ ดร. ธนากร ภูเงินขำ. 2563. "การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation)". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. นครราชสีมา.

รองศาสตราจารย์ ดร. ธนากร ภูเงินขำ. "การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation)". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, 2563. นครราชสีมา.

รองศาสตราจารย์ ดร. ธนากร ภูเงินขำ. การใช้วัสดุอัลคาไลเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างคอนกรีต (Use of Alkali-Activated Material for Concrete Repair and Rehabilitation). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน; 2563. นครราชสีมา.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา