กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์

การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด

... 21 กุมภาพันธ์ 2568
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้ศึกษาการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารกลุ่ม anthocyanins เป้าหมายหลักคือการเพิ่มมูลค่าให้กับรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งโดยทั่วไปใช้เป็นอาหารสัตว์ งานวิจัยดำเนินการในหลายขั้นตอน เริ่มจากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของวัตถุดิบ ซึ่งรวมถึงการวัดปริมาณ total anthocyanin content (TAC) ค่าความเป็นกรด (acid value) และค่าเปอร์ออกไซด์ (peroxide value) ผลการวิเคราะห์พบว่ารำข้าวไรซ์เบอร์รี่มีปริมาณ TAC ค่อนข้างสูง แต่มีความเปราะบางต่อปัจจัยต่างๆ เช่น ออกซิเจนและความร้อน การศึกษาความคงตัวของ anthocyanin แสดงให้เห็นว่าออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ TAC สลายตัว ขณะที่ความร้อนที่อุณหภูมิ 80 และ 100 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ไม่ส่งผลกระทบต่อความคงตัวมากนัก การเติมสารต้านอนุมูลอิสระเช่น sodium metabisulfite และ vitamin E สามารถช่วยลดการสลายตัวของ TAC ได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การคงสภาพของสารสำคัญนี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

เนื่องจากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่มีขนาดอนุภาคหยาบและการไหลของผงไม่ดี จึงจำเป็นต้องนำไปผ่านกระบวนการบดและทำเป็นแกรนูล งานวิจัยเลือกใช้วิธีการทำแกรนูลแบบเปียก โดยเลือกใช้สารช่วยเพิ่มความแข็งและความคงตัวต่างๆ เช่น microcrystalline cellulose, low substituted hydroxypropyl cellulose, hydroxypropyl cellulose, sodium metabisulfite, และ magnesium stearate การเคลือบผิวเม็ดด้วยฟิล์มป้องกันน้ำ (hydroxypropyl methyl cellulose และ ethyl cellulose) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคงตัวของผลิตภัณฑ์ การทดสอบความคงตัวภายใต้สภาวะปกติ (30 ℃/75%RH) และสภาวะเร่ง (40 ℃/75%RH) เป็นเวลา 1 เดือน แสดงให้เห็นว่าการเคลือบฟิล์มป้องกันน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาปริมาณ TAC ไว้ ผลการวิเคราะห์ความแข็ง น้ำหนัก เวลาการแตกตัว และการละลายของเม็ดผลิตภัณฑ์ บ่งชี้ว่าตำรับที่เคลือบฟิล์มมีคุณสมบัติที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ขนาดเม็ดที่ได้ค่อนข้างใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 14 มิลลิเมตร) และปริมาณ TAC ใน 1 เม็ดค่อนข้างต่ำ อาจจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือหาแหล่งวัตถุดิบที่มีปริมาณ TAC สูงกว่า เพื่อลดจำนวนเม็ดที่ต้องรับประทานต่อวัน

งานวิจัยนี้มีข้อดีคือการใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ทางการเกษตร คือรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ การศึกษาความคงตัวของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ช่วยให้สามารถออกแบบกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพและความคงตัวของสารสำคัญ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น การศึกษาความคงตัวในระยะเวลา 1 เดือนอาจไม่เพียงพอ ควรศึกษาในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ การศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเป้าหมาย ก็มีความจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการใช้งานจริง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหารเสริมและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เหตุผลคือ:

  1. อุตสาหกรรมอาหารเสริม: งานวิจัยนี้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในตลาดปัจจุบัน ผลลัพธ์ของงานวิจัยสามารถนำไปใช้ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมหลักเป็นรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยเน้นคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของผลิตภัณฑ์

  2. อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร: งานวิจัยนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการสีข้าว การนำรำข้าวไรซ์เบอร์รี่มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารเสริม ช่วยลดของเสียทางการเกษตรและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ งานวิจัยยังพัฒนาเทคนิคการแปรรูป เช่น การทำแกรนูลและการเคลือบฟิล์ม ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแปรรูปอาหารอื่นๆ ได้

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ วิศวกรกระบวนการอาหาร และเจ้าของธุรกิจอาหารเสริม เหตุผลคือ:

  1. นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร: งานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของวัตถุดิบ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ และการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นงานที่นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารมีความเชี่ยวชาญ

  2. นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์: การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ ต้องอาศัยความรู้และทักษะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทดลอง และการปรับปรุงสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของตลาด

  3. วิศวกรกระบวนการอาหาร: งานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบและปรับปรุงกระบวนการผลิต เช่น การทำแกรนูลและการเคลือบฟิล์ม ซึ่งเป็นงานที่วิศวกรกระบวนการอาหารมีความเชี่ยวชาญ

  4. เจ้าของธุรกิจอาหารเสริม: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพสูง และมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 38166
หัวหน้าโครงการ : รศ.ดร. ณัฐวุฒิ เจริญไทย
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยมหิดล
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1. ศึกษาความคงตัวของวัตถุดิบ รำข้าวไรซ์เบอร์รี่2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีฤทธิ์ต้านออกซิเดซัน ที่มีความคงตัวของสารต้านออกซิเดชัน

รศ.ดร. ณัฐวุฒิ เจริญไทย. (2563). การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด. มหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพมหานคร.

รศ.ดร. ณัฐวุฒิ เจริญไทย. 2563. "การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด". มหาวิทยาลัยมหิดล. กรุงเทพมหานคร.

รศ.ดร. ณัฐวุฒิ เจริญไทย. "การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด". มหาวิทยาลัยมหิดล, 2563. กรุงเทพมหานคร.

รศ.ดร. ณัฐวุฒิ เจริญไทย. การพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในรูปเม็ด. มหาวิทยาลัยมหิดล; 2563. กรุงเทพมหานคร.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา