ผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก อีซีเอ233 ต่อการเจ็บปวดเรื้อรังในแบบจำลองของโรคข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลอง
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้ศึกษาผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก (ECA 233) ต่อการบรรเทาอาการปวดเรื้อรังจากโรคข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Joint Disorder: TMD) ในหนูทดลอง การใช้หนูทดลองที่ฉีดสาร CFA เพื่อจำลองอาการ TMD เป็นวิธีการที่เหมาะสม เนื่องจาก CFA สามารถกระตุ้นการอักเสบและความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถศึกษาผลของสารสกัดบัวบกได้อย่างแม่นยำ การแบ่งกลุ่มควบคุม กลุ่มที่ได้รับยาอิบูโพรเฟน (ยาแก้ปวดต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) และกลุ่มที่ได้รับสารสกัดบัวบกในขนาดต่างๆ (30, 100 และ 300 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารสกัดบัวบกกับยาแผนปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การประเมินผลการรักษาใช้หลายวิธี รวมถึงการทดสอบพฤติกรรมความเจ็บปวดด้วยการใช้ลม วอนเฟรย์ และอะซิโตนเย็น ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับในวงการวิจัย การวัดโครงสร้างและความหนาแน่นของกระดูกข้อต่อขากรรไกร และการศึกษาการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับระบบการรับรู้ความรู้สึกบริเวณใบหน้าและขากรรไกร (เช่น ปมประสาทไทรเจลมินัลและนิวเคลียสของไทรเจลมินัสคอดัลิส) ช่วยให้เข้าใจกลไกการทำงานของสารสกัดบัวบกได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารสกัดบัวบกในขนาด 30 และ 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดเรื้อรังจาก TMD โดยมีระดับประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยาอิบูโพรเฟน สิ่งที่น่าสนใจคือ ขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโลกรัม นอกจากจะช่วยลดอาการปวดแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูก และยังช่วยลดการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดได้อีกด้วย นี่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสารสกัดบัวบกในการเป็นทางเลือกในการรักษา TMD ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น การใช้หนูทดลองอาจไม่สะท้อนถึงผลลัพธ์ในมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ ขนาดตัวอย่างอาจไม่เพียงพอ และยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลการศึกษานี้ เช่น การศึกษาทางคลินิกในมนุษย์ เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว และการศึกษาเพื่อหาปริมาณสารสำคัญในสารสกัดบัวบก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น การศึกษาเพิ่มเติมอาจพิจารณาการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการประเมินความเจ็บปวด เช่น การตรวจวัดคลื่นสมอง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัด และการศึกษาถึงกลไกการทำงานของสารสกัดบัวบกในระดับโมเลกุล เพื่อหาเป้าหมายในการพัฒนายาใหม่
โดยสรุป งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเบื้องต้นที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสารสกัดมาตรฐานบัวบก (ECA 233) ในการรักษาอาการปวดเรื้อรังจาก TMD ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือยาจากสารสกัดบัวบก เพื่อใช้ในการรักษาอาการปวดเรื้อรังจากโรคข้อต่อขากรรไกร แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยก่อนนำไปใช้ในทางคลินิกอย่างแพร่หลาย
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์: ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดบัวบก เพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรังจาก TMD หรือโรคปวดเรื้อรังอื่นๆ การวิจัยนี้ช่วยสร้างฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนการใช้บัวบกในวงการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: สารสกัดบัวบกเป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลการวิจัยนี้สามารถใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดเรื้อรัง การระบุขนาดที่เหมาะสมของสารสกัดบัวบกจะช่วยให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
-
อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง: บัวบกมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ จึงอาจนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางเพื่อลดอาการบวม หรือรอยแดงจากสิว แม้ว่างานวิจัยนี้จะเน้นการรักษา TMD แต่ผลลัพธ์ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมนี้ได้เช่นกัน
-
อุตสาหกรรมเกษตรกรรม: งานวิจัยนี้ส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกและการวิจัยเกี่ยวกับบัวบก เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพืชสมุนไพรชนิดนี้ การพัฒนาสายพันธุ์ที่มีสารสำคัญสูง และเทคนิคการสกัดที่ทันสมัย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างมาก
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์หลายอาชีพ เช่น:
-
แพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรม: แพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังจาก TMD การใช้สารสกัดบัวบกเป็นทางเลือกในการรักษาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น และช่วยลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาแผนปัจจุบัน
-
นักวิจัยทางด้านเภสัชวิทยา: งานวิจัยนี้เป็นพื้นฐานที่ดีในการศึกษากลไกการทำงานของสารสกัดบัวบก และการพัฒนายาใหม่จากสารสกัดนี้ นักวิจัยสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหาปริมาณสารสำคัญ กลไกการออกฤทธิ์ในระดับเซลล์และโมเลกุล และการทดสอบความปลอดภัย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
-
นักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยา: สามารถนำงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ และความเจ็บปวด เช่น โรคข้ออักเสบ โรคภูมิแพ้ หรือโรคระบบประสาทอักเสบ การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารสกัดบัวบกสามารถขยายผลไปสู่การรักษาโรคอื่นๆได้อีกมากมาย
| รหัสโครงการ : | 47344 |
| หัวหน้าโครงการ : | นายณัฐพล โรจน์เพ็ญเพียร |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยมหิดล |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อทดสอบแบบจำลองสัตว์ทดลองที่กระตุ้นให้เกิดโรคข้อต่อขาไกรอักเสบ2. เพื่อทดสอบผลของสารสกัดมาตรฐานใบบัวบัก (อีซีเอ 233) ในสัตว์ทดลองที่มีอาการปวดข้อต่อขากรรไกรเรื้อรัง |
นายณัฐพล โรจน์เพ็ญเพียร. (2563). ผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก อีซีเอ233 ต่อการเจ็บปวดเรื้อรังในแบบจำลองของโรคข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลอง. มหาวิทยาลัยมหิดล. .
นายณัฐพล โรจน์เพ็ญเพียร. 2563. "ผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก อีซีเอ233 ต่อการเจ็บปวดเรื้อรังในแบบจำลองของโรคข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลอง". มหาวิทยาลัยมหิดล. .
นายณัฐพล โรจน์เพ็ญเพียร. "ผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก อีซีเอ233 ต่อการเจ็บปวดเรื้อรังในแบบจำลองของโรคข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลอง". มหาวิทยาลัยมหิดล, 2563. .
นายณัฐพล โรจน์เพ็ญเพียร. ผลของสารสกัดมาตรฐานบัวบก อีซีเอ233 ต่อการเจ็บปวดเรื้อรังในแบบจำลองของโรคข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลอง. มหาวิทยาลัยมหิดล; 2563. .