การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง “การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน” มุ่งเน้นการพัฒนาโมเดลการปลูกสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน โดยใช้โมเดล 1-1-3 ซึ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้แก่เกษตรกร งานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในบริบทปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาหนี้สินของเกษตรกร และผลกระทบด้านลบจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการผสมผสานความรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์ การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (เช่น การจัดการน้ำและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์) และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป จนถึงการตลาด ทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์ โมเดล 1-1-3 ที่นำเสนอ คือการปลูกสมุนไพรในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้เวลา 1 ปี และสามารถสร้างรายได้ 300,000 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ที่สูง และความคุ้มค่าของการลงทุน
นอกจากนี้ งานวิจัยยังให้ความสำคัญกับการสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่สมบูรณ์ โดยเชื่อมโยงเกษตรกร ผู้แปรรูป และผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบการผลิตและการตลาด และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การวิจัยยังครอบคลุมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้หลากหลาย เช่น อาหารคน อาหารสัตว์ เวชสำอาง และการสกัดสารสำคัญ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาด การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการตลาดออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความเป็นไปได้ในการขยายผลสู่กลุ่มเกษตรกรอื่นๆ อาจมีความแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ และความพร้อมของเกษตรกร นอกจากนี้ การจัดการตลาดออนไลน์ อาจต้องการความรู้และทักษะเฉพาะทาง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับเกษตรกรบางกลุ่ม การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสียจากการผลิต และผลกระทบต่อระบบนิเวศ ก็มีความจำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโมเดลนี้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์: งานวิจัยนี้เสนอโมเดลการผลิตที่ยั่งยืน ลดต้นทุน และสร้างรายได้สูง ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
-
อุตสาหกรรมอาหารสุขภาพ: การแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นส่วนสำคัญของงานวิจัยนี้ ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดอาหารสุขภาพ ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากเกษตรอินทรีย์ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมี
-
อุตสาหกรรมเวชสำอางและเครื่องสำอาง: งานวิจัยนี้ครอบคลุมการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร เพื่อใช้ในการผลิตเวชสำอางและเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง และมีความต้องการวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพหลายประเภท ได้แก่:
-
เกษตรกร: โดยเฉพาะเกษตรกรที่สนใจการปลูกพืชสมุนไพร และต้องการเพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิต โมเดล 1-1-3 ที่เสนอในงานวิจัย สามารถเป็นแบบอย่างที่ดี ในการสร้างรายได้จากการปลูกพืชสมุนไพรอย่างยั่งยืน
-
ผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร: งานวิจัยนี้สามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และขยายตลาดได้
-
ผู้ประกอบการด้านการตลาดออนไลน์: การตลาดออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของโมเดล จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อช่วยเกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น
| รหัสโครงการ : | 38406 |
| หัวหน้าโครงการ : | รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อจัดการความรู้ถอดบทเรียนผลการวิจัยจากแปลงปลูกพืช สมุนไพรในระบบเกษตรอินทรีย์ แบบ 1-1-3 Model เป็นระบบที่ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ ตั้งแต่การจัดการดินให้มีคุณภาพ การจัดการน้ำอย่างคุ้มค่าและประหยัดพลังงาน ด้วยระบบโซล่าเซลล์ ประหยัดค่าใช้จ่าย และปลอดภัยด้วยการลดการใช้สารเคมี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายเป็นรายได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี(1 ไร่ 1 ปี 300,000 บาท) เพื่อพัฒนาต่อยอดการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากแปลงเกษตรอินทรีย์ สู่ห่วงโซ่คุณค่าอาหารสุขภาพ และตลาดทั้งระบบ off line และระบบ on line เกิดประโยชน์อย่างเป็นระบบแก่เกษตรกร และผู้บริโภคอย่างยั่งยืน เพื่อขยายผลการดำเนินงานจากต้นแบบสู่กลุ่มเกษตรกรเป้าหมายในชุมชน ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงการนำองค์ความรู้ไปขยายผลที่เกิดประโยชน์ที่ชัดเจน |
รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. (2563). การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. .
รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. 2563. "การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. .
รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. "การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2563. .
รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2563. .