กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์

การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน

... 27 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยเรื่อง “การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน” มุ่งเน้นการพัฒนาโมเดลการปลูกสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน โดยใช้โมเดล 1-1-3 ซึ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้แก่เกษตรกร งานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในบริบทปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาหนี้สินของเกษตรกร และผลกระทบด้านลบจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร

จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการผสมผสานความรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์ การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (เช่น การจัดการน้ำและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์) และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป จนถึงการตลาด ทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์ โมเดล 1-1-3 ที่นำเสนอ คือการปลูกสมุนไพรในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้เวลา 1 ปี และสามารถสร้างรายได้ 300,000 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ที่สูง และความคุ้มค่าของการลงทุน

นอกจากนี้ งานวิจัยยังให้ความสำคัญกับการสร้างห่วงโซ่คุณค่าที่สมบูรณ์ โดยเชื่อมโยงเกษตรกร ผู้แปรรูป และผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบการผลิตและการตลาด และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การวิจัยยังครอบคลุมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้หลากหลาย เช่น อาหารคน อาหารสัตว์ เวชสำอาง และการสกัดสารสำคัญ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาด การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการตลาดออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความเป็นไปได้ในการขยายผลสู่กลุ่มเกษตรกรอื่นๆ อาจมีความแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ และความพร้อมของเกษตรกร นอกจากนี้ การจัดการตลาดออนไลน์ อาจต้องการความรู้และทักษะเฉพาะทาง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับเกษตรกรบางกลุ่ม การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสียจากการผลิต และผลกระทบต่อระบบนิเวศ ก็มีความจำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโมเดลนี้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

  1. อุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์: งานวิจัยนี้เสนอโมเดลการผลิตที่ยั่งยืน ลดต้นทุน และสร้างรายได้สูง ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

  2. อุตสาหกรรมอาหารสุขภาพ: การแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นส่วนสำคัญของงานวิจัยนี้ ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดอาหารสุขภาพ ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากเกษตรอินทรีย์ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมี

  3. อุตสาหกรรมเวชสำอางและเครื่องสำอาง: งานวิจัยนี้ครอบคลุมการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร เพื่อใช้ในการผลิตเวชสำอางและเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง และมีความต้องการวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพหลายประเภท ได้แก่:

  1. เกษตรกร: โดยเฉพาะเกษตรกรที่สนใจการปลูกพืชสมุนไพร และต้องการเพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิต โมเดล 1-1-3 ที่เสนอในงานวิจัย สามารถเป็นแบบอย่างที่ดี ในการสร้างรายได้จากการปลูกพืชสมุนไพรอย่างยั่งยืน

  2. ผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร: งานวิจัยนี้สามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และขยายตลาดได้

  3. ผู้ประกอบการด้านการตลาดออนไลน์: การตลาดออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของโมเดล จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านการตลาดออนไลน์ เพื่อช่วยเกษตรกร และผู้ประกอบการ ในการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 38406
หัวหน้าโครงการ : รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : เพื่อจัดการความรู้ถอดบทเรียนผลการวิจัยจากแปลงปลูกพืช สมุนไพรในระบบเกษตรอินทรีย์ แบบ 1-1-3 Model เป็นระบบที่ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ ตั้งแต่การจัดการดินให้มีคุณภาพ การจัดการน้ำอย่างคุ้มค่าและประหยัดพลังงาน ด้วยระบบโซล่าเซลล์ ประหยัดค่าใช้จ่าย และปลอดภัยด้วยการลดการใช้สารเคมี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายเป็นรายได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี(1 ไร่ 1 ปี 300,000 บาท) เพื่อพัฒนาต่อยอดการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากแปลงเกษตรอินทรีย์ สู่ห่วงโซ่คุณค่าอาหารสุขภาพ และตลาดทั้งระบบ off line และระบบ on line เกิดประโยชน์อย่างเป็นระบบแก่เกษตรกร และผู้บริโภคอย่างยั่งยืน เพื่อขยายผลการดำเนินงานจากต้นแบบสู่กลุ่มเกษตรกรเป้าหมายในชุมชน ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงการนำองค์ความรู้ไปขยายผลที่เกิดประโยชน์ที่ชัดเจน

รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. (2563). การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. .

รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. 2563. "การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. .

รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. "การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2563. .

รองศาสตราจารย์ ดร. วุธิพงศ์ ภักดีกุล. การจัดการห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของสมุนไพรแบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2563. .

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา