กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์

การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด

... 28 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด ซึ่งเป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ในตลาดกาแฟสำเร็จรูป โดยเน้นการใช้สารเพิ่มเนื้ออย่าง Maltodextrin (MD), Gum Arabic (GA), และ Methylcellulose (MC) เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของผลิตภัณฑ์ งานวิจัยดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการทดลองหาอัตราส่วนที่เหมาะสมของสารเพิ่มเนื้อทั้งสามชนิด ใช้การออกแบบการทดลองแบบแฟกทอเรียลเศษส่วน (Fractional factorial design) เพื่อลดจำนวนการทดลองและเพิ่มประสิทธิภาพ การทดลองครอบคลุมการวิเคราะห์ทางเคมี (ความชื้น, กิจกรรมของน้ำ, ความเป็นกรด-ด่าง, ปริมาณกรดคลอโรจีนิกและคาเฟอีน), การวิเคราะห์ทางกายภาพ (ค่าสี LAB), และการวิเคราะห์ทางประสาทสัมผัส (การทดสอบความแตกต่างและการจัดอันดับความชอบ) นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์สารประกอบกลิ่นหอมสำคัญก่อนและหลังกระบวนการอบแห้งแบบระเหิด เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นรส การวิเคราะห์ทางจุลชีววิทยาเพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก็เป็นส่วนสำคัญ งานวิจัยยังขยายไปถึงการศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาด ออกแบบบรรจุภัณฑ์ และวางแผนการขยายกำลังการผลิต ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าสูตรที่มีอัตราส่วนของ MD:GA:MC ที่ 15:2.5:0.2 % และ 15:7.5:0.1 % ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน การศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดแสดงให้เห็นถึงทัศนคติเชิงบวกของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะด้านความสะดวกในการพกพาและการชง แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพของกาแฟผงสำเร็จรูปอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ได้นำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การควบคุมคุณภาพ การตลาด จนถึงการวางแผนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ความรอบคอบในการออกแบบการทดลอง การวิเคราะห์ผลที่หลากหลาย และการพิจารณาความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผลงานวิจัยชิ้นนี้มีคุณค่าและน่าเชื่อถือสูง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมกาแฟสำเร็จรูป เนื่องจากงานวิจัยนี้ได้พัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตกาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีศักยภาพสูงในการขยายตลาด การพัฒนาสูตรกาแฟสำเร็จรูปที่สามารถเก็บรักษาคุณภาพและรสชาติได้เป็นเวลานาน พร้อมกับการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการตลาดและการวางแผนขยายกำลังการผลิต ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างรอบคอบ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ในอนาคต เทคโนโลยีการอบแห้งแบบระเหิดที่ใช้ในการวิจัยนี้อาจนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ต้องการคงคุณภาพและรสชาติ เช่น ชา น้ำผลไม้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลในหลายอาชีพ ได้แก่ นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร วิศวกรอาหาร นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม นักการตลาด และผู้ที่สนใจในธุรกิจสตาร์ทอัพ นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารและวิศวกรอาหารสามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้จากงานวิจัยไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการควบคุมคุณภาพ นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถใช้ผลการวิจัยในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ประกอบการสามารถนำผลการวิจัยไปใช้ในการวางแผนธุรกิจ การตลาด และการขยายกำลังการผลิต นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด ขณะที่ผู้ที่สนใจในธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถนำงานวิจัยนี้ไปเป็นแนวทางในการสร้างธุรกิจใหม่ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิดที่แตกต่างและมีคุณภาพสูงสู่ตลาด

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 101889
หัวหน้าโครงการ : ดร. ปฏิมากร พะสุวรรณ
ปีงบประมาณ : 2564
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อพัฒนาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการใช้สารเพิ่มเนื้อ Matodextrin (MD) และศึกษาการใช้อัตราส่วนระหว่าง Maltodextrin (MD) ต่อ Methycellulose (MC) หรือ Maltodextrin (MD) ต่อ Gum Arabic (GA) ในการพัฒนาสูตรกาแฟสกัดเย็นด้วยวิธีการทำแห้งแบบระเหิด 2. เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพ เคมี และจุลชีววิทยาและการยอมรับของผู้บริโภคทีมีต่อผลิตภัณฑ์กาแฟสกัดเย็นด้วยวิธีการทำแห้งแบบระเหิด 3. เพื่อศึกษา flavor profile ของกาแฟก่อนและหลังกระบวนการแปรรูป เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการปรับปรุงคุณภาพทางด้านกลิ่นรส ที่อาจส่งผลต่อการยอมรับของผู้บริโภค4. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในทางการตลาดและเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดเบื้องต้น และออกแบบบรรจุภัณฑ์ สำหรับให้ผู้ประกอบการนำประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้5. เพื่อศึกษาแนวทางการขยายกำลังการผลิต จากกำลังการผลิตอยู่ที่ไม่เกิน 10 กก. (น้ำกาแฟสกัดเย็น+สารเพิ่มเนื้อ) ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 80 กก. (น้ำกาแฟสกัดเย็น+สารเพิ่มเนื้อ)

ดร. ปฏิมากร พะสุวรรณ. (2564). การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด. มหาวิทยาลัยขอนแก่น. .

ดร. ปฏิมากร พะสุวรรณ. 2564. "การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. .

ดร. ปฏิมากร พะสุวรรณ. "การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด". มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2564. .

ดร. ปฏิมากร พะสุวรรณ. การพัฒนากาแฟสกัดเย็นอบแห้งแบบระเหิด. มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2564. .

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา