กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี

การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด

... 28 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าของเหง้าสับปะรดซึ่งเป็นของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิตสับปะรด โดยการสกัดเอนไซม์บรอมิเลนเพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์ serum booster จุดเด่นของงานวิจัยนี้อยู่ที่การขยายขนาดการผลิตเอนไซม์บรอมิเลนจากระดับห้องปฏิบัติการ (500 มล.) สู่ระดับอุตสาหกรรม (10 ลิตร จากนั้นปรับเป็น 50 ลิตรในกระบวนการทดลองจริง) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ งานวิจัยไม่ได้หยุดอยู่แค่การสกัดเอนไซม์ แต่ยังครอบคลุมการวิเคราะห์คุณสมบัติทางชีวภาพ การทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (มีฤทธิ์ในการทำให้ผิวขาวขึ้น) และฤทธิ์ต้านการอักเสบ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ serum booster การทดสอบอายุการเก็บรักษา การตรวจสอบคุณภาพเพื่อขอมาตรฐานรับรอง และที่สำคัญคือการศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาด ซึ่งเป็นการทำงานวิจัยที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

ขั้นตอนการสกัดเอนไซม์บรอมิเลนในระดับขยายขนาด เป็นส่วนที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญ การได้ผลผลิตเอนไซม์บรอมิเลนบริสุทธิ์ที่มีค่ากิจกรรม 78,934.74 CDU/g และผลผลิต 0.25% ของน้ำหนักเหง้าสับปะรดสดเริ่มต้น เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของกระบวนการสกัด นอกจากนี้ การทดสอบประสิทธิภาพของ serum booster ที่มีส่วนผสมของเอนไซม์บรอมิเลน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ในการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวขาวสว่างขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนการตลาด

การศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาด โดยการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง เป็นอีกหนึ่งส่วนที่น่าสนใจ การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ กลิ่น ราคา และช่องทางการจัดจำหน่าย แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดและกลุ่มเป้าหมาย การระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน (ผู้ที่มีอายุ 29 ปีขึ้นไป) และการเน้นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ (สารสกัดจากธรรมชาติ นวัตกรรม) เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี การเลือกใช้กลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสมและวิธีการเก็บข้อมูลที่เป็นระบบ ทำให้ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังอาจมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ขนาดตัวอย่างในการสำรวจความคิดเห็น หรือการทดสอบในกลุ่มตัวอย่างที่จำกัด ซึ่งอาจส่งผลต่อการสรุปผลการวิจัย การขยายผลการวิจัยไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม การควบคุมคุณภาพ และการจัดการด้านอื่นๆ เช่น การหาแหล่งวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง และการจัดการด้านต้นทุน เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถแข่งขันได้ในตลาด

โดยสรุป งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่ครบถ้วน ตั้งแต่การสกัด การวิเคราะห์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการศึกษาตลาด แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการนำเหง้าสับปะรดซึ่งเป็นของเหลือทิ้งมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งกับ อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เหตุผลคือ:

  • อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง: งานวิจัยนี้ได้พัฒนา serum booster ที่มีส่วนผสมของเอนไซม์บรอมิเลนจากเหง้าสับปะรด ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวขาวสว่างขึ้น นี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงในตลาดเครื่องสำอาง ที่สำคัญ งานวิจัยนี้ยังครอบคลุมการศึกษาตลาด การวางกลยุทธ์ทางการตลาด และการขอมาตรฐานรับรอง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการนำผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์

  • อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป: งานวิจัยนี้เน้นการใช้ประโยชน์จากเหง้าสับปะรดซึ่งเป็นของเหลือทิ้ง จึงสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การนำเหง้าสับปะรดมาสกัดเป็นเอนไซม์บรอมิเลน สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกร และลดปัญหาขยะทางการเกษตร

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลากรในหลายอาชีพ เช่น:

  • นักวิจัยและนักพัฒนาผลิตภัณฑ์: งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการสกัดเอนไซม์บรอมิเลน การวิเคราะห์คุณสมบัติ และการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อนักวิจัยและนักพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยเฉพาะผู้ที่สนใจด้านสารสกัดจากธรรมชาติ

  • ผู้ประกอบการ: งานวิจัยนี้ศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาด และให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์ serum booster ไปสู่เชิงพาณิชย์

  • เกษตรกร: งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการเพิ่มมูลค่าให้กับเหง้าสับปะรด ซึ่งเป็นของเหลือทิ้ง สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด

  • นักการตลาด: การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายและช่องทางการตลาด เป็นข้อมูลสำคัญที่นักการตลาดสามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 101885
หัวหน้าโครงการ : นางสาวพิลาณี ไวถนอมสัตย์
ปีงบประมาณ : 2564
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : - เพื่อสกัดเอนไซม์บรอมิเลนจากเหง้าสับปะรดในระดับขยายขนาด (จากเดิมขนาด 500 มล. เป็นขนาด 10 ลิตร) สำหรับเป็นส่วนประกอบออกฤทธิ์หลักในผลิตภัณฑ์ serum booster- เพื่อวิเคราะห์สมบัติและฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดเอนไซม์บรอมิเลนที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ - เพื่อปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ serum booster ที่มีส่วนผสมของเอนไซม์บรอมิเลนจากเหง้าสับปะรด- เพื่อศึกษาอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ serum booster ที่พัฒนา- เพื่อตรวจสอบคุณภาพและการขอมาตรฐานรับรองของผลิตภัณฑ์ serum booster- เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดเบื้องต้น สำหรับให้ผู้ประกอบการนำประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้

นางสาวพิลาณี ไวถนอมสัตย์. (2564). การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.

นางสาวพิลาณี ไวถนอมสัตย์. 2564. "การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.

นางสาวพิลาณี ไวถนอมสัตย์. "การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2564. กรุงเทพมหานคร.

นางสาวพิลาณี ไวถนอมสัตย์. การขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Serum Booster) จากสารสกัดจากเหง้าสับปะรด. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2564. กรุงเทพมหานคร.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา

รายการที่เกี่ยวข้อง