องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)" นับเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางดนตรีไทย งานวิจัยนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การรวบรวมข้อมูล แต่ยังวิเคราะห์ถึงพลวัตและการดำรงอยู่ขององค์ความรู้ดังกล่าวในปัจจุบัน การใช้หลายวิธีวิทยาการวิจัยร่วมกัน เช่น การวิจัยทางประวัติศาสตร์ การวิเคราะห์เนื้อหา การจัดการความรู้ และวิธีวิทยาการวิจัยทางดุริยางคศิลป์ ทำให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและรอบด้าน การนำข้อมูลจากเอกสารทางวิชาการ สื่อบันทึกเสียง และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ช่วยให้เข้าถึงรายละเอียดที่ลึกซึ้งของกระบวนการเรียนรู้และสืบทอดองค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักนี้
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการเน้นถึง "ความเรียบง่าย" ของการขับร้องตามแนวทางของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ ซึ่งแตกต่างจากสำนักอื่นๆ ที่อาจมีรายละเอียดหรือเทคนิคที่ซับซ้อนกว่า ความเรียบง่ายนี้ไม่ได้หมายความว่าขาดความประณีต แต่เป็นการเน้นที่พื้นฐานสำคัญอย่าง การออกเสียง ทำนองคำร้อง ทำนองเอื้อน ซึ่งล้วนอาศัยพื้นฐานที่แข็งแรง เช่น ความรู้เรื่องพื้นฐานของเสียง การหายใจ ลีลาทางขับร้อง กลวิธีพิเศษ และความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะของนักร้อง การศึกษาถึงพื้นฐานเหล่านี้ ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้การขับร้องในแนวทางนี้
นอกจากนี้ งานวิจัยยังให้ความสำคัญกับ "คลังความรู้เกี่ยวกับเพลงเถาและเพลงสำคัญ" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงระบบการจัดการความรู้ที่เป็นระบบตั้งแต่อดีต ทั้งการบันทึกโน้ตและบันทึกเสียง เป็นการรักษาและสืบทอดองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาถึงระบบการจัดการความรู้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจถึงกระบวนการอนุรักษ์ แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการจัดการความรู้ในด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย
งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงพลวัตของการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมบันเทิงต่างๆ ในสังคมไทย ตั้งแต่ละครร้อง ละครเวที ภาพยนตร์เสียง และเพลงไทยสากล ส่งผลให้เกิดการพัฒนาจากการขับร้องแบบเพลงไทยแผนเดิมไปสู่การขับร้องแบบกึ่งเพลงเนื้อเต็ม การวิเคราะห์ถึงอิทธิพลเหล่านี้ ช่วยให้เข้าใจถึงวิวัฒนาการและการปรับตัวของสำนักดนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป
สุดท้าย งานวิจัยยังกล่าวถึงการดำรงอยู่ขององค์ความรู้ในปัจจุบัน ซึ่งยังคงสืบทอดผ่านการอนุรักษ์ของหน่วยงาน การสืบสานในกลุ่มบุคคล การผลิตงานวิชาการ รวมทั้งสื่อบันทึกเสียงและสื่อการสอน การศึกษาถึงวิธีการสืบทอดเหล่านี้ ช่วยให้เห็นภาพรวมของการอนุรักษ์มรดกทางดนตรีไทย และอาจนำไปสู่การพัฒนารูปแบบการอนุรักษ์ที่เหมาะสมต่อไป งานวิจัยชิ้นนี้จึงมีความสมบูรณ์และครอบคลุมในทุกด้าน และมีประโยชน์อย่างมากต่อการศึกษาและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมดนตรีไทย และอุตสาหกรรมการศึกษา เหตุผลคือ:
-
อุตสาหกรรมบันเทิง: องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะสามารถนำไปใช้ในการผลิตผลงานเพลง การแสดงดนตรี และการสร้างสรรค์งานศิลปะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การศึกษาความเป็นมาและการพัฒนาของสำนักดนตรีนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบันเทิงเข้าใจถึงรากฐานและเอกลักษณ์ของดนตรีไทยได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม
-
อุตสาหกรรมการศึกษา: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการจัดทำหลักสูตรการสอนดนตรีไทย การฝึกอบรมครูผู้สอน และการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการสอนการขับร้อง ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นฐานการขับร้อง วิธีการสอน และการจัดการความรู้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางด้านดนตรีไทย
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลในหลายอาชีพ ได้แก่:
-
นักร้องเพลงไทย: งานวิจัยนี้ให้ความรู้พื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับการขับร้องเพลงไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาฝีมือและเทคนิคการขับร้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักร้องที่ต้องการขับร้องในแนวทางของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ
-
ครูผู้สอนดนตรีไทย: งานวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนดนตรีไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการขับร้อง ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นฐานการขับร้อง วิธีการสอน และการจัดการความรู้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาคุณภาพการสอน
-
นักวิชาการด้านดนตรีไทย: งานวิจัยนี้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการ และการอนุรักษ์ดนตรีไทย ข้อมูลที่ครบถ้วนและละเอียด จะช่วยให้นักวิชาการสามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจถึงความสำคัญของดนตรีไทยได้ดียิ่งขึ้น
-
นักดนตรีไทย: ไม่จำกัดเฉพาะนักร้อง แต่อาจเป็นผู้เล่นเครื่องดนตรีไทยที่สนใจศึกษาถึงบริบททางดนตรีของสำนักนี้ เพื่อให้การบรรเลงร่วมกันมีความกลมกลืนและเข้าใจถึงอุดมการณ์ของสำนัก
-
นักวิจัย: งานวิจัยนี้สามารถใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาค้นคว้าต่อยอด เพื่อศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมรดกทางดนตรีไทยได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น
| รหัสโครงการ : | 107389 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางสาวมณรดา ศิลปบรรเลง |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านมนุษย์ศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | วัตถุประสงค์1. เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)2. เพื่อศึกษาสถานภาพและการแพร่กระจายองค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ในปัจจุบัน |
นางสาวมณรดา ศิลปบรรเลง. (2564). องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวมณรดา ศิลปบรรเลง. 2564. "องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวมณรดา ศิลปบรรเลง. "องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง)". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, 2564. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวมณรดา ศิลปบรรเลง. องค์ความรู้ด้านการขับร้องของสำนักหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์; 2564. กรุงเทพมหานคร.