บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยเรื่อง “นาฏยประดิษฐ์ : พระลอชมดง” เป็นงานวิจัยเชิงสร้างสรรค์ที่มุ่งเน้นการนำวรรณกรรมคลาสสิกอย่าง “พระลอ” มาดัดแปลงและสร้างสรรค์เป็นการแสดงในรูปแบบนาฏยศิลป์ร่วมสมัย งานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่มุมของการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนาฏศิลป์และวรรณกรรม ซึ่งกำลังเสื่อมถอยลงไปตามกาลเวลา การเลือกใช้วรรณกรรมเรื่อง “พระลอ” เป็นต้นแบบนั้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะนำเอาเรื่องราวอันเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในอดีตมาถ่ายทอดในรูปแบบใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจจากคนรุ่นใหม่และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจและชื่นชมในมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทย

จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการบูรณาการองค์ความรู้จากหลายสาขาเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์สร้างสรรค์ ดุริยางคศิลป์ไทย คีตศิลป์ไทย และวรรณกรรม การศึกษาจากเอกสาร การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ และการศึกษาจากศิลปินต้นแบบ ทำให้กระบวนการวิจัยมีความครอบคลุมและน่าเชื่อถือ การสร้างสรรค์การแสดงในสองรูปแบบ คือ ละครพันทางและนาฏศิลป์สร้างสรรค์ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและดัดแปลงองค์ประกอบต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัย โดยที่ยังคงรักษาแก่นแท้และสาระสำคัญของเรื่องราวเอาไว้

การที่งานวิจัยสามารถนำเสนอการแสดงในรูปแบบละครพันทางซึ่งเป็นรูปแบบการแสดงดั้งเดิม และผสมผสานกับนาฏศิลป์สร้างสรรค์ซึ่งเป็นรูปแบบสมัยใหม่ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่ทันสมัยและน่าสนใจ การสร้างสรรค์ท่ารำใหม่ๆ บนพื้นฐานของท่ารำนาฏศิลป์ไทย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญในด้านนาฏศิลป์ของผู้วิจัย นอกจากนี้ การที่งานวิจัยสามารถนำเสนอการแสดงจากบทละครเรื่องพระลอซึ่งมีบทแต่ไม่ปรากฏหลักฐานการแสดงสู่สาธารณชน นับเป็นการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอาจจะต้องมีการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบรับของผู้ชมต่อการแสดงทั้งสองรูปแบบ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง เช่น การนำไปแสดงในโรงละครหรือใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะศึกษาต่อยอดในอนาคต โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่มีคุณค่า ทั้งในด้านการอนุรักษ์และการสร้างสรรค์ และเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับงานวิจัยทางด้านนาฏศิลป์และวัฒนธรรมไทยต่อไป

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการแสดง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เหตุผลคือ ผลงานวิจัยได้สร้างสรรค์การแสดงชุด "พระลอชมดง" ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นการแสดงในโรงละคร ใช้ในการแสดงโชว์ทางวัฒนธรรม หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ การสร้างสรรค์ท่ารำใหม่ๆ และการนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย ยังสามารถนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานด้านมัลติมีเดีย ภาพยนตร์ หรือแอนิเมชั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้อีกด้วย

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพนักนาฏศิลป์ ครูผู้สอนนาฏศิลป์ นักวิชาการด้านนาฏศิลป์ และนักวิจัยทางด้านวัฒนธรรม เหตุผลคือ งานวิจัยนี้ได้สร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ด้านนาฏศิลป์ไทย ซึ่งนักนาฏศิลป์สามารถนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานการแสดง ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน นักวิชาการสามารถนำไปใช้ในการศึกษาค้นคว้า และนักวิจัยสามารถนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการทำวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนาฏศิลป์ไทย หรือการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านวัฒนธรรม เช่น ผู้จัดการโรงละคร หรือผู้จัดการโครงการด้านวัฒนธรรมต่างๆ