กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์

กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3)

... 20 กุมภาพันธ์ 2568
กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3)
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาเครื่องดื่มจากข้าวที่ดัดแปลงทางพันธุกรรมให้ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3) สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน งานวิจัยครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจความต้องการของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงการพัฒนาสูตร การผลิต การทดสอบคุณภาพ และการวางแผนการตลาด ความโดดเด่นของงานวิจัยนี้คือการใช้แป้งข้าวที่ผ่านการดัดแปลงด้วยเอนไซม์พูลลูลาเนส ซึ่งช่วยลดดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index - GI) ทำให้เครื่องดื่มมีการปลดปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ขั้นตอนการวิจัยเริ่มจากการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคผู้สูงอายุจำนวน 400 คน ผลการสำรวจชี้ให้เห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดภัย และมีรสชาติที่ถูกปาก นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปแบบที่สะดวกต่อการบริโภค เช่น ผงชง และมีส่วนผสมของผักและผลไม้ ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาสูตรเครื่องดื่ม

จากนั้น งานวิจัยได้ศึกษาเงื่อนไขที่เหมาะสมในการดัดแปลงแป้งข้าวด้วยเอนไซม์พูลลูลาเนส โดยพบว่าความเข้มข้นของเอนไซม์ 60 U/กรัมแป้ง และระยะเวลาการย่อย 5 ชั่วโมง ให้ประสิทธิภาพในการดัดแปลงแป้งสูงสุด และจากการทดลองกับข้าว 3 สายพันธุ์ (ข้าวแดง ข้าวไรซ์เบอรี่ และข้าวหอมนิล) พบว่าข้าวไรซ์เบอรี่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดดัชนีน้ำตาล จึงเลือกใช้แป้งข้าวไรซ์เบอรี่ดัดแปรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป

ขั้นตอนสำคัญคือการทดสอบประสิทธิภาพของแป้งข้าวที่ดัดแปลงแล้ว โดยเปรียบเทียบกับข้าวขาวปกติ ผลการทดสอบกับอาสาสมัคร 20 คน โดยใช้การวัดระดับน้ำตาลในเลือด แสดงให้เห็นว่าแป้งข้าวที่ผ่านการดัดแปลงมีอัตราการดูดซึมกลูโคสช้ากว่า และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นน้อยกว่า ซึ่งยืนยันประสิทธิภาพของการดัดแปลงแป้งข้าวในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

โดยสรุป งานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์ ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาด การพัฒนาสูตร การผลิต การทดสอบคุณภาพ และการวางแผนการตลาด การใช้แป้งข้าวที่ดัดแปลงด้วยเอนไซม์พูลลูลาเนส เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลการวิจัยยังช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี จุดแข็งของงานวิจัยนี้อยู่ที่การผสมผสานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารเข้ากับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคอย่างลงตัว

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ เหตุผลประกอบด้วย:

  • ความต้องการของตลาด: ประชากรโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง งานวิจัยนี้ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้อย่างตรงจุด

  • นวัตกรรมผลิตภัณฑ์: การใช้แป้งข้าวที่ดัดแปลงด้วยเอนไซม์พูลลูลาเนส เป็นนวัตกรรมที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ในตลาด และเป็นจุดขายที่สำคัญในการแข่งขัน

  • ศักยภาพทางการตลาด: ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ดัดแปลงแล้ว มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในตลาด เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คือผู้สูงอายุ และมีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคลากรในหลายอาชีพ ได้แก่:

  • นักวิทยาศาสตร์อาหาร: งานวิจัยนี้ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ และวิทยาศาสตร์การอาหาร อย่างครอบคลุม นักวิทยาศาสตร์อาหารสามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ได้

  • นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์: งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของกระบวนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การสำรวจตลาด การพัฒนาสูตร การผลิต และการทดสอบ นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถเรียนรู้และนำกระบวนการนี้ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้

  • ผู้ประกอบการ: งานวิจัยนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างธุรกิจ ผู้ประกอบการสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยนี้ไปพัฒนาและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อจำหน่าย และสร้างรายได้

  • นักโภชนาการ: งานวิจัยนี้มีความสำคัญต่อนักโภชนาการ เพราะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ นักโภชนาการสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการให้คำแนะนำด้านโภชนาการกับผู้ป่วยได้

  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด: งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนกลยุทธ์การตลาด

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 13722
หัวหน้าโครงการ : ผศ.ดร. พัชนีย์ ยะสุรินทร์
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : -
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อศึกษากระบวนการผลิตและสูตรที่เหมาะสมของเครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3) สำหรับผู้สูงอายุ2. เพื่อพัฒนาต้นแบบเครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3) สำหรับผู้สูงอายุ พร้อมบรรจุภัณฑ์3. เพื่อศึกษาคุณภาพทางเคมี กายภาพ และ การยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ต้นแบบ4. เพื่อศึกษาและวางแผนการตลาดเครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3) สำหรับผู้สูงอายุ5. เพื่อศึกษาพฤติกรรม ความคิดเห็น และทัศนคติการซื้อและการรับประทานของผู้บริโภคที่เป็นผู้สูงอายุ รวมถึงผลการทดสอบการยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3) สำหรับผู้สูงอายุ

ผศ.ดร. พัชนีย์ ยะสุรินทร์. (2563). กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3). -. กรุงเทพมหานคร.

ผศ.ดร. พัชนีย์ ยะสุรินทร์. 2563. "กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3)". -. กรุงเทพมหานคร.

ผศ.ดร. พัชนีย์ ยะสุรินทร์. "กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3)". -, 2563. กรุงเทพมหานคร.

ผศ.ดร. พัชนีย์ ยะสุรินทร์. กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ (RS3). -; 2563. กรุงเทพมหานคร.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา