การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning Support System) เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking - CT) และทักษะการเขียนโปรแกรมในนักศึกษาระดับปริญญาตรีไทย งานวิจัยแบ่งเป็นสองระยะ ระยะแรก (ปีงบประมาณ 2564) เน้นการออกแบบและพัฒนา ระบบโดยมีเป้าหมายหลักคือการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของระบบกับวิธีการสอนแบบเดิม การประเมินจะวัดจากระดับ CT ทักษะการเขียนโปรแกรม และแรงจูงใจในการเรียนของนักศึกษาสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ใช้ระบบและกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง CT, ทักษะการเขียนโปรแกรม และแรงจูงใจ ระยะที่สอง (ปีงบประมาณ 2565) เน้นการขยายผลการใช้งานระบบไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั่วประเทศ และศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีของนักศึกษา
ระบบที่พัฒนาขึ้นมี 3 ส่วนหลัก คือ ระบบการเรียนรู้ร่วมกันแบบสืบเสาะ ระบบตรวจสอบข้อผิดพลาดอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนเพื่อส่งเสริมการให้คำแนะนำระหว่างนักศึกษาด้วยกันและระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ การออกแบบเน้นการใช้ภาษา PHP และ JavaScript จุดเด่นของระบบคือการสนับสนุนการเรียนรู้แบบไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ช่วยให้ผู้เรียนวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง
จุดแข็งของงานวิจัยนี้คือการมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาโดยตรง การออกแบบระบบที่คำนึงถึงการเรียนรู้ร่วมกันและการคิดเชิงคำนวณ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคปัจจุบัน และการทดสอบประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบ โดยการเปรียบเทียบกับวิธีการสอนแบบเดิม อย่างไรก็ตาม งานวิจัยควรระบุรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการประเมินผลอย่างชัดเจน เช่น เครื่องมือที่ใช้ในการวัด CT ทักษะการเขียนโปรแกรม และแรงจูงใจ รวมถึงขนาดกลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มตัวอย่าง การขยายผลในระยะที่สองควรมีการอธิบายวิธีการขยายผล และการวัดผลการยอมรับเทคโนโลยีอย่างละเอียด เพื่อให้ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง การศึกษาความยั่งยืนของระบบหลังจากการขยายผลก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรกล่าวถึง เพื่อประเมินความสำเร็จอย่างครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยี เช่น ความพร้อมของเทคโนโลยี การฝึกอบรมอาจารย์ และการสนับสนุนจากสถาบัน การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงานวิจัยและทำให้ผลลัพธ์มีความหมายมากขึ้น การศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ควรมีในงานวิจัย เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ และสามารถนำไปปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ และซอฟต์แวร์ เพราะระบบที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรม และการสร้างเครื่องมือการเรียนการสอนด้านการเขียนโปรแกรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสถาบันการศึกษาที่ต้องการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักศึกษา นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการพัฒนาบุคลากรด้านการเขียนโปรแกรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีมีความสำคัญมากขึ้น อุตสาหกรรมเกม อุตสาหกรรมการเงิน และอุตสาหกรรมการแพทย์ ล้วนต้องการบุคลากรที่มีทักษะการเขียนโปรแกรม ระบบนี้จึงสามารถช่วยพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ และช่วยให้องค์กรเหล่านั้นสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ การออกแบบระบบ การสอน และการวิจัยด้านการศึกษา เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ ครูอาจารย์ และนักวิจัยด้านการศึกษา เพราะระบบที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยให้บุคคลเหล่านี้สามารถพัฒนา ปรับปรุง และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
| รหัสโครงการ : | 125062 |
| หัวหน้าโครงการ : | ดร. กฤตวยาน์ ทองคู่ |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | จากคำถามวิจัยเกี่ยวกับว่า การใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้นนี้จะส่งผลต่อ CT เชิงความรู้การเขียนโปรแกรมและทักษะการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนระดับปริญญาตรีหรือไม่? ภายใต้บริบทการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯ CT เชิงความรู้การเขียนโปรแกรม ทักษะการเขียนโปรแกรม และแรงจูงใจการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมมีความสัมพันธ์กันหรือไม่? อย่างไร? อีกทั้งผู้เรียนยอมรับการใช้เทคโนโลยีระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯในชั้นเรียนของประเทศไทยหรือไม่ (Learning support system technology acceptance)? วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยนี้จึงมีดังต่อไปนี้ ระยะที่ 1: ปีงบประมาณ 2564 วัตถุประสงค์หลักด้านการสร้างนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อการออกแบบและพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรี วัตถุประสงค์หลักด้านการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อเปรียบเทียบระดับ CT เชิงความรู้การเขียนโปรแกรมระหว่างผู้เรียนกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้น และกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้วิธีการเรียนการสอนปกติโดยไม่ใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯ เพื่อเปรียบเทียบระดับของทักษะการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้เรียนกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้น และกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้วิธีการเรียนการสอนปกติโดยไม่ใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯ เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนรู้การเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้เรียนกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้น และกลุ่มที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้วิธีการเรียนการสอนปกติโดยไม่ใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯ เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง CT เชิงความรู้การเขียนโปรแกรม ทักษะการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ และแรงจูงใจการเรียนรู้การเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้น ระยะที่ 2: ปีงบประมาณ 2565 จากการพัฒนาและวิจัยระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่มีประสิทธิภาพในระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นเพียงการเก็บข้อมูลเฉพาะภาคเหนือใน 3 มหาวิทยาลัยเท่านั้น จึงทำให้เกิดโจทย์วิจัยหลักในระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2564 ภายใต้บริบทการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯดังกล่าว คือนักศึกษาระดับปริญญาตรีจะยอมรับการใช้เทคโนโลยีนี้ชั้นเรียนจริงของประเทศไทยหรือไม่ (Learning support system technology acceptance)? ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของระยะที่ 2 คือการขยายผลการจัดการเรียนรู้การเขียนภาษาคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น ดังนี้ วัตถุประสงค์หลักด้านการขยายผลนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในประเทศไทย เพื่อขยายผลงานระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯ ในปี 2564 สู่การนำไปใช้ประโยชน์จริงในชั้นเรียนระดับปริญญาตรีของประเทศไทย เพื่อศึกษาระดับ CT เชิงความรู้การเขียนโปรแกรมของผู้เรียนระดับปริญญาตรีของประเทศไทยที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้น เพื่อสำรวจการยอมรับเทคโนโลยีระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันฯที่พัฒนาขึ้นในชั้นจริงของผู้เรียนระดับปริญญาตรีของประเทศไทย |
ดร. กฤตวยาน์ ทองคู่. (2564). การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. .
ดร. กฤตวยาน์ ทองคู่. 2564. "การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. .
ดร. กฤตวยาน์ ทองคู่. "การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2564. .
ดร. กฤตวยาน์ ทองคู่. การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2564. .