แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง “แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย” นี้มีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างแผนที่ความเสี่ยงการเกิดทรายเหลวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยอาศัยฐานข้อมูลจากการสำรวจภาคสนาม การวิเคราะห์เชิงประสบการณ์ และการจำลองเชิงตัวเลขด้วยวิธีไฟไนต์อิลิเมนต์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือ การศึกษาเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอดีต เช่น แผ่นดินไหวขนาด 6.8 ที่พม่าในปี 2554 และแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ที่แม่ลาวในปี 2557 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เกิดการเหลวตัวของชั้นทรายในพื้นที่ภาคเหนือ งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการศึกษาพื้นที่เสี่ยงภัยในเชิงลึก โดยใช้ข้อมูลจากการขุดหลุมทดสอบ การเจาะสำรวจดิน และการวัดความเร็วคลื่นเฉือนด้วยวิธี Down-hole และ Microtremor เพื่อให้ได้ข้อมูลทางธรณีวิทยาและวิศวกรรมธรณีเทคนิคที่แม่นยำ
การวิเคราะห์ความเสี่ยงใช้ทั้งวิธีสูตรเชิงประสบการณ์ซึ่งพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญอย่างระดับน้ำใต้ดินและความเร่งสูงสุดจากแผ่นดินไหว และวิธีไฟไนต์อิลิเมนต์ซึ่งเป็นวิธีการจำลองเชิงตัวเลขที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของดินได้อย่างละเอียด โดยใช้ข้อมูลความเร่งของพื้นดินที่วัดได้จริงระหว่างเกิดแผ่นดินไหว การใช้ทั้งสองวิธีนี้ช่วยลดความคลาดเคลื่อนและเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ พื้นที่ศึกษาครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกว้างขวางของการศึกษาและความครอบคลุมของพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ผลการศึกษาจะแสดงให้เห็นถึงโอกาสการเกิดการเหลวตัวของแต่ละตำแหน่งศึกษา พร้อมทั้งข้อเสนอแนะในการป้องกันและบรรเทาปัญหา รวมถึงมาตรการรับมือที่เหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวางแผนการพัฒนาพื้นที่และการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการผสมผสานระหว่างการสำรวจภาคสนาม การวิเคราะห์เชิงประสบการณ์ และการจำลองเชิงตัวเลข ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ครบถ้วนและมีความน่าเชื่อถือสูง นอกจากนี้ การนำเสนอผลลัพธ์ในรูปของแผนที่ความเสี่ยงยังช่วยให้เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของงานวิจัยอาจอยู่ที่ขอบเขตการศึกษาที่จำกัดเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือ การขยายขอบเขตการศึกษาไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาและความเสี่ยงแผ่นดินไหวแตกต่างกัน จะทำให้ผลลัพธ์มีความครอบคลุมและมีความหมายมากยิ่งขึ้น การศึกษาในระยะยาวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินและการเกิดแผ่นดินไหวก็มีความสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาแผนที่ความเสี่ยงให้มีความแม่นยำมากขึ้น และเพื่อให้แผนที่นี้มีประโยชน์สูงสุด ควรมีการเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับความเสี่ยงภัยและวิธีการเตรียมความพร้อมรับมือ เพื่อลดผลกระทบจากการเกิดทรายเหลวในอนาคต
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง อุตสาหกรรมประกันภัย และอุตสาหกรรมวางแผนเมืองและการจัดการภัยพิบัติ
-
อุตสาหกรรมการก่อสร้าง: ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการเกิดทรายเหลว โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย การกำหนดมาตรฐานการก่อสร้างที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และการเลือกใช้วัสดุและเทคนิคการก่อสร้างที่ลดผลกระทบจากการเกิดทรายเหลว ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญที่วิศวกรและบริษัทรับเหมาก่อสร้างควรนำไปใช้ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของโครงการ
-
อุตสาหกรรมประกันภัย: แผนที่ความเสี่ยงสามารถช่วยประเมินความเสี่ยงภัยและกำหนดเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม บริษัทประกันภัยสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินความเสี่ยงของทรัพย์สินในพื้นที่เสี่ยงภัย และกำหนดราคาเบี้ยประกันที่สะท้อนความเสี่ยงอย่างถูกต้อง เพื่อการบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น
-
อุตสาหกรรมวางแผนเมืองและการจัดการภัยพิบัติ: แผนที่ความเสี่ยงนี้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจัดการพื้นที่เสี่ยงภัย และการวางแผนการบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนการพัฒนาเมือง การกำหนดพื้นที่ห้ามสร้าง และการจัดทำแผนรับมือแผ่นดินไหว เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับวิศวกรโยธา นักธรณีวิทยา นักธรณีฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม นักวางแผนเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติ
-
วิศวกรโยธา: สามารถใช้ข้อมูลในการออกแบบโครงสร้างที่ปลอดภัยและทนทานต่อการเกิดทรายเหลว
-
นักธรณีวิทยาและนักธรณีฟิสิกส์: สามารถใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่ และการเกิดปรากฏการณ์ทรายเหลว
-
นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม: สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเกิดทรายเหลว
-
นักวางแผนเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติ: สามารถใช้ข้อมูลในการวางแผนการใช้ที่ดิน การจัดการพื้นที่เสี่ยงภัย และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติ
| รหัสโครงการ : | 174004 |
| หัวหน้าโครงการ : | ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง |
| ปีงบประมาณ : | 2565 |
| หน่วยงาน : | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อสร้างฐานข้อมูลในการวิเคราะห์การเกิดทรายเหลวด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เพื่อจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยการเกิดทรายเหลวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัยในการเกิดเหลวจากแผนที่ค่าความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ในการเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ |
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. (2565). แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เชียงราย, เชียงใหม่.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. 2565. "แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เชียงราย, เชียงใหม่.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. "แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2565. เชียงราย, เชียงใหม่.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. แผนที่ความเสี่ยงการเกิดเหลวในชั้นทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2565. เชียงราย, เชียงใหม่.