การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย" นี้มีวัตถุประสงค์ที่ครอบคลุมและสำคัญต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือที่เสี่ยงต่อการเกิดปรากฏการณ์ทรายเหลว งานวิจัยนี้ได้ใช้วิธีการวิจัยที่หลากหลายและครบถ้วน เริ่มจากการศึกษาคุณสมบัติของดินในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจพฤติกรรมของดินเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การศึกษาคุณสมบัติของดินในห้องปฏิบัติการนี้จะช่วยให้สามารถจำลองสถานการณ์และทำนายความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้ดำเนินการสำรวจภาคสนามอย่างละเอียด โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การขุดหลุมทดสอบ การเจาะสำรวจดิน และการวัดความเร็วคลื่นเฉือนด้วยวิธี Down-hole และวิธี Microtremor วิธีการเหล่านี้มีความสำคัญในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์เกี่ยวกับคุณสมบัติทางวิศวกรรมของดินในพื้นที่ศึกษา ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจภาคสนามนี้จะถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการเกิดการเหลวตัวของดิน
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของงานวิจัยนี้คือการใช้วิธีการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทั้งวิธีสูตรเชิงประสบการณ์และการคำนวณเชิงตัวเลขด้วยวิธีไฟไนต์อิลิเมนต์ การใช้ทั้งสองวิธีนี้ทำให้ผลการวิเคราะห์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากวิธีสูตรเชิงประสบการณ์อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ ขณะที่วิธีไฟไนต์อิลิเมนต์มีความแม่นยำสูงกว่า แต่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลป้อนเข้าที่ละเอียดและครบถ้วน การนำทั้งสองวิธีมาใช้ร่วมกันจึงช่วยลดข้อจำกัดของแต่ละวิธีและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์
การนำเสนอข้อมูลค่าความเร่งของพื้นดินที่วัดได้ระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวและการวิเคราะห์ผลตอบสนองแบบไม่เชิงเส้นแบบหนึ่งมิติ ทำให้ผลลัพธ์มีความสมจริงและสะท้อนสถานการณ์จริงได้มากขึ้น การคำนึงถึงผลการแปรปรวนของระดับน้ำใต้ดินและค่าความเร่งเนื่องจากแผ่นดินไหวที่ความน่าจะเป็นร้อยละ 10 และ 2 ในรอบการเกิดซ้ำ 50 ปี แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและความละเอียดถี่ถ้วนในการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินความเสี่ยงภัยแผ่นดินไหว
สุดท้าย งานวิจัยนี้ยังมุ่งหวังที่จะจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยของผลกระทบการเกิดทรายเหลวในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย และศึกษาแนวทางการแก้ไขและป้องกันในพื้นที่เสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ศึกษา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม การมีแผนที่เสี่ยงภัยที่แม่นยำจะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ได้ งานวิจัยนี้จึงมีคุณค่าทั้งในเชิงวิชาการและเชิงประยุกต์ โดยสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเชิงเทคนิคเพื่อเสนอแนะมาตรการรับมือที่เหมาะสมสำหรับการบรรเทาอันตรายจากการเกิดการเหลวตัวในภาคเหนือของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมธรณีเทคนิค และอุตสาหกรรมประกันภัย เหตุผลคือ:
- วิศวกรรมโยธา: ผลการวิจัยจะช่วยให้วิศวกรโยธาสามารถออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างอาคาร สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ให้มีความปลอดภัยมากขึ้นในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดทรายเหลว การออกแบบอาคารและโครงสร้างที่คำนึงถึงความเสี่ยงจากการเกิดทรายเหลวจะช่วยลดความเสียหายและการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้จากแผ่นดินไหว
- วิศวกรรมธรณีเทคนิค: งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณสมบัติของดินและพฤติกรรมของดินเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อวิศวกรธรณีเทคนิคในการวิเคราะห์เสถียรภาพของดิน การออกแบบฐานราก และการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและลดความเสียหายจากการเกิดทรายเหลว
- อุตสาหกรรมประกันภัย: ข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่เสี่ยงภัยจากการเกิดทรายเหลวสามารถนำไปใช้ในการประเมินความเสี่ยงและการกำหนดเบี้ยประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันภัยทรัพย์สิน อุตสาหกรรมประกันภัยสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อกำหนดราคาเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมและยุติธรรม ลดความเสี่ยงทางการเงิน และส่งเสริมการบริหารความเสี่ยงภัยที่เหมาะสม
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิจัย วิศวกรโยธา วิศวกรธรณีเทคนิค นักธรณีวิทยา และนักวางแผนเมือง เหตุผลคือ:
- นักวิจัย: งานวิจัยนี้สามารถนำไปต่อยอดได้ในด้านต่างๆ เช่น การศึกษาพฤติกรรมของดินประเภทอื่นๆ การพัฒนารูปแบบการทำนายการเกิดทรายเหลวที่แม่นยำยิ่งขึ้น และการวิจัยวัสดุและเทคนิคการเสริมกำลังดินเพื่อป้องกันการเกิดทรายเหลว
- วิศวกรโยธาและวิศวกรธรณีเทคนิค: ข้อมูลจากงานวิจัยนี้จะช่วยให้วิศวกรสามารถออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงความเสี่ยงจากการเกิดทรายเหลว
- นักธรณีวิทยา: งานวิจัยนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาของพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำแผนที่ธรณีวิทยา การศึกษาภัยพิบัติทางธรณีวิทยา และการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
- นักวางแผนเมือง: ข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่เสี่ยงภัยจากการเกิดทรายเหลวสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจัดการพื้นที่เสี่ยงภัย และการวางแผนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
| รหัสโครงการ : | 110809 |
| หัวหน้าโครงการ : | ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อศึกษาถึงคุณสมบัติของดินในห้องปฏิบัติการ บริเวณที่เคยพบการเกิดปรากฏการณ์ทรายเหลว เพื่อศึกษาลักษณะการเกิดปรากฏการณ์ทรายเหลวแบบเฉพาะตำแหน่ง เพื่อวิเคราะห์ลักษณะของผลตอบสนองของทรายต่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยของผลกระทบการเกิดทรายเหลวในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขและป้องกันในพื้นที่เสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ศึกษา |
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. (2564). การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร, เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. 2564. "การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร, เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. "การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2564. กรุงเทพมหานคร, เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา.
ศ.ดร. สุเชษฐ์ ลิขิตเลอสรวง. การสำรวจการเกิดเหลวของชั้นดินทรายเนื่องจากแผ่นดินไหวบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2564. กรุงเทพมหานคร, เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา.