การวิจัยพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงด้วยจุลินทรีย์บำรุงเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญของพืช
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงเสริมจุลินทรีย์บำรุงจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ฟางข้าว) เพื่อใช้ปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช กระบวนการวิจัยครอบคลุมตั้งแต่การหาสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตถ่านชีวภาพ (อุณหภูมิ 500 องศาเซลเซียส) จนถึงการพัฒนาเทคนิคการตรึงจุลินทรีย์ Bacillus pumilus (PGPR) ลงในถ่านชีวภาพ โดยใช้วิธีการแบบแรงโน้มถ่วง ซึ่งสามารถรักษาความมีชีวิตของจุลินทรีย์ได้นานถึง 2 เดือนทั้งที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิห้อง งานวิจัยแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของถ่านชีวภาพดัดแปลงนี้ในการปรับปรุงคุณภาพดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม และเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ในดิน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข 105 โดยการเติมถ่านชีวภาพดัดแปลงในปริมาณ 1% ทำให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านความสูงของต้น ความยาวของราก จำนวนต้นต่อกอ จำนวนรวงและเมล็ด และปริมาณคลอโรฟิลล์
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการผสมผสานความรู้ด้านการผลิตถ่านชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ (การตรึงจุลินทรีย์) และการประยุกต์ใช้ในด้านการเกษตร การศึกษาไม่เพียงแต่เน้นผลผลิตทางด้านปริมาณเท่านั้น แต่ยังศึกษาถึงกลไกการทำงานของถ่านชีวภาพดัดแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์การสร้าง Indole-3-Acetic Acid (IAA) ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และการวิเคราะห์การแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับ induced systemic resistance (ISR) ซึ่งบ่งชี้ถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของพืช การใช้เทคนิค RT-PCR ในการวิเคราะห์การแสดงออกของยีน PR10b, Rab21, GH3-8 และ NPR1 ช่วยให้เข้าใจกลไกการทำงานของถ่านชีวภาพดัดแปลงในระดับโมเลกุลได้อย่างลึกซึ้ง การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า การใช้ถ่านชีวภาพร่วมกับเชื้อ B. pumilus สามารถเสริมฤทธิ์ในการกระตุ้น ISR ได้ดีกว่าการใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การศึกษาเน้นที่พืชข้าวหอมมะลิพันธุ์เดียว และระยะเวลาการทดลองอาจไม่เพียงพอที่จะประเมินผลกระทบในระยะยาว การศึกษาผลกระทบต่อพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวจึงเป็นสิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติม นอกจากนี้ การศึกษาหาความเหมาะสมของอุณหภูมิในการเผาถ่านชีวภาพ ควรทำการทดลองในช่วงอุณหภูมิที่ละเอียดกว่า เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด และอาจพิจารณาการศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้เชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของถ่านชีวภาพดัดแปลง การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตถ่านชีวภาพดัดแปลงในระดับอุตสาหกรรมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรศึกษาเพื่อให้สามารถนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพดินและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ วัสดุปรับปรุงดิน และผลิตภัณฑ์เกษตร เหตุผลก็คือ ถ่านชีวภาพดัดแปลงเสริมจุลินทรีย์ที่พัฒนาขึ้นในงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรได้โดยตรง เพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มผลผลิตพืช และลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเกษตรที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์ เนื่องจากกระบวนการผลิตถ่านชีวภาพดัดแปลงใช้เทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเป็นฐานของอุตสาหกรรมนี้ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปและใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ก็สามารถนำงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเศษวัสดุเหล่านั้นได้
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาทางด้านการเกษตร เช่น นักวิทยาศาสตร์การเกษตร นักวิจัยด้านดิน และนักวิชาการด้านเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพดินและเพิ่มผลผลิต ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการดิน และผู้ประกอบการที่สนใจธุรกิจด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน เนื่องจากงานวิจัยนี้ให้ความรู้และเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
| รหัสโครงการ : | 7212 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางมุจลินทร์ ผลจันทร์ |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยแม่โจ้ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 6.1. เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมและศึกษาคุณสมบัติของถ่านชีวภาพดัดแปลงจากวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตรจากนาข้าว 6.2 เพื่อหาสภาวะและวิธีที่เหมาะสมสำหรับการห่อหุ้มเซลล์จุลินทรียไว้ในถ่านชีวภาพดัดแปลงให้มีความคงอยู่และอัตราการอยู่รอดสูง 6.3 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของถ่านชีวภาพดัดแปลงเสริมด้วยจุลินทรีย์บำรุงสำหรับการปรับปรุงคุณภาพของดิน การย่อยสลายสารอินทรีย์ และส่งเสริมการเจริญเติบโต 6.4 เพื่อศึกษากลไกการทำงานและติดตามเชื้อจุลินทรีย์จากการใช้ถ่านชีวภาพดัดแปลงเสริมด้วยจุลินทรีย์บำรุงสำหรับการปรับปรุงคุณภาพของดิน การย่อยสลายสารอินทรีย์ และส่งเสริม การเจริญเติบโต |
นางมุจลินทร์ ผลจันทร์. (2563). การวิจัยพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงด้วยจุลินทรีย์บำรุงเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญของพืช. มหาวิทยาลัยแม่โจ้. เชียงใหม่.
นางมุจลินทร์ ผลจันทร์. 2563. "การวิจัยพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงด้วยจุลินทรีย์บำรุงเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญของพืช". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. เชียงใหม่.
นางมุจลินทร์ ผลจันทร์. "การวิจัยพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงด้วยจุลินทรีย์บำรุงเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญของพืช". มหาวิทยาลัยแม่โจ้, 2563. เชียงใหม่.
นางมุจลินทร์ ผลจันทร์. การวิจัยพัฒนาถ่านชีวภาพดัดแปลงด้วยจุลินทรีย์บำรุงเพื่อเป็นวัสดุปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมการเจริญของพืช. มหาวิทยาลัยแม่โจ้; 2563. เชียงใหม่.