การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง” มุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้าในจังหวัดบุรีรัมย์ให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยอาศัยการถ่ายทอดนวัตกรรมในสามด้านหลัก ได้แก่ นวัตกรรมด้านกระบวนการผลิต, นวัตกรรมด้านการออกแบบและลวดลายผ้า, และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเชิงพาณิชย์ งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้า OTOP ให้มีมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
การถ่ายทอดนวัตกรรมด้านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญของงานวิจัยนี้ การลดต้นทุนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์และดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การพัฒนาลวดลายผ้ามัดหมี่จากเอกลักษณ์ท้องถิ่นยังช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การออกแบบที่ทันสมัยและมีความคิดสร้างสรรค์จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น การผสมผสานระหว่างความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและความทันสมัยจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
การถ่ายทอดเทคนิคการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเชิงพาณิชย์เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงตลาดออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่ง การเรียนรู้การตลาดออนไลน์ การสร้างเว็บไซต์ การใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตสินค้า และการจัดการระบบอีคอมเมิร์ซ เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ OTOP การฝึกอบรมในด้านนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้นและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการถ่ายทอดนวัตกรรมแล้ว งานวิจัยนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ OTOP การทำงานร่วมกันในรูปแบบกลุ่มจะช่วยเพิ่มพลังต่อรอง แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ และลดต้นทุนการผลิต การสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
โดยสรุป งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ OTOP โดยใช้การถ่ายทอดนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ การบูรณาการความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม การออกแบบ และเทคโนโลยีดิจิทัล ควบคู่กับการสร้างเครือข่าย จะช่วยยกระดับสินค้า OTOP สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ประกอบการ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ งานวิจัยนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถนำไปปรับใช้กับกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่อื่นๆได้ การประเมินผลที่ชัดเจนและการติดตามผลหลังจากการถ่ายทอดนวัตกรรม จะช่วยให้เห็นภาพผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมผ้าไหมและผ้ามัดหมี่ เหตุผลสำคัญคือ งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า การถ่ายทอดนวัตกรรมด้านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การออกแบบและพัฒนาลายผ้ามัดหมี่ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชิงพาณิชย์ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมและช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานฝีมือและสินค้าหัตถกรรมได้เช่นกัน เนื่องจากหลักการและวิธีการที่ใช้สามารถปรับใช้ได้กับสินค้าประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบการ OTOP โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพด้านการทอผ้า ช่างฝีมือ และนักออกแบบ เหตุผลคือ งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ OTOP โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มทอผ้า การถ่ายทอดนวัตกรรมต่างๆ จะช่วยเพิ่มทักษะและความรู้ให้กับผู้ประกอบการ ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้น มีการออกแบบที่ทันสมัย และสามารถเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งร่วมมือกันในการพัฒนาธุรกิจ งานวิจัยนี้ยังเหมาะสมกับผู้ที่ทำงานในด้านการตลาดดิจิทัล เนื่องจากมีการถ่ายทอดเทคนิคการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขยายตลาดและเพิ่มยอดขาย
| รหัสโครงการ : | 173346 |
| หัวหน้าโครงการ : | นายณัฐ ประสีระเตสัง |
| ปีงบประมาณ : | 2565 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อถ่ายทอดนวัตกรรมการพัฒนากระบวนการการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้ประกอบการOTOP ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 10 กลุ่มภายใน 1 ปี2. เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการออกแบบและพัฒนาลายผ้ามัดหมี่ จากลวดลายเอกลักษณ์ของท้องถิ่น แก่ผู้ประกอบการOTOP ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 10 กลุ่มภายใน 1 ปี3. เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเชิงพาณิชย์ แก่ผู้ประกอบการOTOP ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 10 กลุ่มภายใน 1 ปี4. เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการOTOP ภายในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 10 กลุ่มภายใน 1 ปี |
นายณัฐ ประสีระเตสัง. (2565). การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. บุรีรัมย์.
นายณัฐ ประสีระเตสัง. 2565. "การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง". มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. บุรีรัมย์.
นายณัฐ ประสีระเตสัง. "การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง". มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 2565. บุรีรัมย์.
นายณัฐ ประสีระเตสัง. การพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองตามแนวทางพระราชดำริจากการถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มทอผ้า จังหวัดบุรีรัมย์ สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มูลค่าสูง. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์; 2565. บุรีรัมย์.