การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง" นี้เป็นงานวิจัยที่มีความสำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากน้ำมันถั่วดาวอินคาเป็นแหล่งกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ แต่การบริโภคน้ำมันโดยตรงนั้นมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องรสชาติและการใช้งาน งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบผงเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการเก็บรักษา โดยใช้เทคนิคการสร้างอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยรักษาคุณภาพของน้ำมันและคงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการศึกษาอย่างครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการเตรียมอิมัลชัน การเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสม (เลซิทิน-มอลโทเดกซ์ทริน และโปรตีนถั่ว-แซนแทนกัม) การศึกษาผลของกระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งต่อสมบัติของผง รวมถึงการขยายขนาดการผลิตเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมได้จริง การที่งานวิจัยได้ทดลองใช้เลซิทิน-มอลโทเดกซ์ทริน และโปรตีนถั่ว-แซนแทนกัม ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ช่วยให้เห็นภาพของตัวแปรต่างๆที่มีผลต่อคุณสมบัติของผงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การศึกษาหาอัตราส่วนที่เหมาะสมของน้ำมันถั่วดาวอินคาในระบบอิมัลชัน (ร้อยละ 25) เพื่อให้ได้ผงที่มีคุณภาพและความสามารถในการกักเก็บน้ำมันได้ดีที่สุด (ร้อยละ 56) แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบในการออกแบบการทดลอง ผลการทดลองที่ได้แสดงให้เห็นว่าอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาที่มีเลซิทิน 2% และมอลโทเดกซ์ทริน 30% มีขนาดอนุภาคเล็กและมีความคงตัวดี ซึ่งเป็นผลที่น่าพึงพอใจและเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป
นอกจากนี้ งานวิจัยยังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำผงอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด ซึ่งเป็นการนำเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยได้อย่างสร้างสรรค์ การศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดเบื้องต้นและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์และสามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้จริง การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน (นักเรียน นิสิต นักศึกษา และกลุ่มคนวัยทำงานตอนต้น) และการวิเคราะห์ปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ (รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และราคา) แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตลาดและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ การระบุปัญหาที่ต้องแก้ไข (รสชาติไม่อร่อย เหนียวติดฟัน และรู้สึกไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ) ช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา เช่น การศึกษาในระยะยาวเกี่ยวกับความคงตัวของผงอิมัลชันภายใต้สภาวะการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน การศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพของการบริโภคผงอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาในระยะยาว และการศึกษาเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมคล้ายคลึงกันในท้องตลาด การศึกษาเพิ่มเติมเหล่านี้จะช่วยยืนยันผลลัพธ์และเพิ่มความน่าเชื่อถือของงานวิจัยได้มากขึ้น โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพ มีขั้นตอนการทดลองที่ครบถ้วน และมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจ สามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดได้
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากผงอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายประเภท เช่น นมอัดเม็ด ซีเรียล ขนมขบเคี้ยว หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เช่น การนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือโยเกิร์ต ความสามารถในการกักเก็บน้ำมันได้ดีและการขยายขนาดการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับผลิตภัณฑ์ และยังเหมาะสมกับอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ เนื่องจากน้ำมันถั่วดาวอินคาที่มีคุณสมบัติในการลดคลอเลสเตอรอลและความดันโลหิต อาจนำไปพัฒนาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยาในอนาคต
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร นักวิทยาศาสตร์การอาหาร วิศวกรอาหาร นักเทคโนโลยีชีวภาพ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากงานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น การสร้างอิมัลชัน การทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง และการขยายขนาดการผลิต ความรู้ความเข้าใจในด้านเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจด้านอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือผู้ที่สนใจในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารก็สามารถนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดได้ ความรู้ด้านการตลาดและการออกแบบผลิตภัณฑ์ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ออกสู่ตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จ
| รหัสโครงการ : | 102837 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางสาวสุภัคชนม์ คล่องดี |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อศึกษาการเตรียมอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาด้วยเลซิทิน-มอลโทเดกซ์ทริน และโปรตีนถั่ว-แซนแทนกัมต่อความคงตัวของระบบอิมัลชัน 2. เพื่อศึกษากระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งต่อสมบัติของผงอิมัลชันทำให้คงตัวด้วยเลซิทิน-มอลโทเดกซ์ทริน และโปรตีนถั่ว-แซนแทนกัม 3. เพื่อศึกษาการขยายขนาดการผลิตด้วยกระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งที่การผลิตระดับอุตสาหกรรม 4. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำผงอิมัลชันน้ำมันถั่วดาวอินคาที่ได้ไปประยุกต์ในผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด 5. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดเบื้องต้น และออกแบบบรรจุภัณฑ์ สำหรับให้ผู้ประกอบการนำประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ |
นางสาวสุภัคชนม์ คล่องดี. (2564). การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวสุภัคชนม์ คล่องดี. 2564. "การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวสุภัคชนม์ คล่องดี. "การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2564. กรุงเทพมหานคร.
นางสาวสุภัคชนม์ คล่องดี. การพัฒนาน้ำมันถั่วดาวอินคาผงด้วยระบบอิมัลชันร่วมกับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2564. กรุงเทพมหานคร.