การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน" นี้เป็นงานวิจัยเชิงประยุกต์ที่มุ่งแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างเป็นระบบ โดยเน้นการบูรณาการองค์ความรู้หลากหลายสาขาเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การวิเคราะห์ปัญหา แต่ได้ลงมือปฏิบัติจริงใน 7 ชุมชนตัวแทนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นและความตั้งใจในการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการนำกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชนมาเป็นกลไกหลักในการแก้ปัญหา ไม่ใช่การใช้วิธีการแบบ top-down แต่เป็นการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การกำหนดขอบเขตพื้นที่อนุรักษ์ การสร้างแนวกันไฟเปียก การจัดการป่าชุมชนปลอดการเผา ไปจนถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเยาวชนและชุมชน วิธีการแบบ participatory action research นี้ ทำให้ผลลัพธ์ของงานวิจัยมีความยั่งยืน เพราะชุมชนเป็นเจ้าของกระบวนการและสามารถดำเนินการต่อได้เองแม้หลังจากโครงการสิ้นสุดลง
นอกจากนี้ งานวิจัยยังใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เช่น การใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ การสร้างแบบจำลองการพยากรณ์การเกิดไฟป่า และการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนาปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ การผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ ทำให้การแก้ปัญหาไฟป่ามีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเก็บรวบรวมข้อมูลมีความรอบด้าน ครอบคลุมทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ความชื้นดิน ปริมาณน้ำ ชนิดของพรรณไม้ และข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ความรู้ความเข้าใจของชุมชน ทัศนคติต่อปัญหาไฟป่า และแผนการจัดการของชุมชน การใช้แบบสอบถาม แบบทดสอบ และชุดกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา ทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและมีความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ระยะเวลาการวิจัยอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะประเมินผลลัพธ์ในระยะยาว และการขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ อาจจะต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ แต่โดยรวมแล้ว งานวิจัยชิ้นนี้ถือว่าเป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ และสามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่อื่นๆ ได้
งานวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการองค์ความรู้ การมีส่วนร่วมของชุมชน และการใช้เทคโนโลยี ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแต่ลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับคนในพื้นที่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระยะยาว
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมการเกษตร: เนื่องจากงานวิจัยได้พัฒนาปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงดิน ลดการใช้สารเคมี และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ การวิจัยยังศึกษาถึงการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการเกิดไฟป่า ซึ่งมีประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง
-
อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้มีส่วนช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีและวิธีการจัดการไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ผลลัพธ์ของการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
-
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ: งานวิจัยใช้ระบบ GIS ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนำผลลัพธ์ของการวิจัยไปพัฒนาซอฟต์แวร์หรือระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการป้องกันไฟป่า
-
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: การลดปัญหาหมอกควันจะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพหลายสาขา ได้แก่:
-
นักวิจัยสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างของการวิจัยเชิงประยุกต์ที่แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม นักวิจัยสามารถนำองค์ความรู้และวิธีการในงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ในการวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
-
เจ้าหน้าที่ป่าไม้: งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลและแนวทางการจัดการป่าไม้ชุมชน เจ้าหน้าที่ป่าไม้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการวางแผนและบริหารจัดการป่าไม้ เพื่อลดการเกิดไฟป่าและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
-
เกษตรกร: งานวิจัยนี้พัฒนาปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงดิน เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต
-
นักวางแผนชุมชน: งานวิจัยนี้เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน นักวางแผนชุมชนสามารถนำแนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชน การบริหารจัดการทรัพยากร และการสร้างชุมชนต้นแบบไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาชุมชน
-
ครู/อาจารย์: ชุดกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษาที่ใช้ในงานวิจัยสามารถนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการจัดการเรียนการสอน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน
| รหัสโครงการ : | 109671 |
| หัวหน้าโครงการ : | อาจารย์ ดร. ทัตพร คุณประดิษฐ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | แผนงาน หรือชุดโครงการ |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อลดการเกิดไฟและการสร้างชุมชนต้นแบบเพื่อลดปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่ตัวแทน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยกระบวนการจัดการทีพยากรชุมชน การกำหนดขอบเขตพื้นที่อนุรักษ์ การลดวัสดุเชื้อเพลิงจากเศษวัสดุในการเผา การใช้เทคโนโลยีด้านภูมิสารสนเทศน์ในการสร้างแนวทางการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การสร้างรูปแบบการคำนวณและพยากรณ์การเกิดไฟ และสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักต่อปัญหาสภาวะหมอกควัน ที่สามารถแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างยั่งยืน |
อาจารย์ ดร. ทัตพร คุณประดิษฐ์. (2564). การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. แม่ฮ่องสอน.
อาจารย์ ดร. ทัตพร คุณประดิษฐ์. 2564. "การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน". มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. แม่ฮ่องสอน.
อาจารย์ ดร. ทัตพร คุณประดิษฐ์. "การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน". มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, 2564. แม่ฮ่องสอน.
อาจารย์ ดร. ทัตพร คุณประดิษฐ์. การลดการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันโดยกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่; 2564. แม่ฮ่องสอน.