การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things" นี้มุ่งเน้นแก้ปัญหาสำคัญที่เกิดจากการรุกล้ำของน้ำเค็มต่อแหล่งน้ำจืด ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ งานวิจัยนี้มีความครอบคลุมและเป็นระบบ โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 โครงการย่อย และ 5 กิจกรรมหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรอบคอบในการออกแบบงานวิจัย โดยเริ่มจากการวิเคราะห์คุณภาพน้ำผิวดิน เพื่อระบุพารามิเตอร์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เช่น ออกซิเจนละลาย, BOD, และฟีคอลคอลิฟอร์มแบคทีเรีย นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินความรุนแรงของปัญหาและกำหนดทิศทางการแก้ไขต่อไป
ต่อมา การศึกษาคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นอีกส่วนสำคัญที่แสดงถึงความใส่ใจในมุมมองของผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง การที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับปานกลางและมีความกังวลเกี่ยวกับความเค็มของน้ำสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบจัดการที่ได้ผลจริง ข้อมูลเชิงปริมาณเช่น ร้อยละ 61.63 ที่มีคุณภาพชีวิตปานกลาง และร้อยละ 83.69 ที่รับรู้ถึงความเค็มของน้ำ เป็นข้อมูลที่มีความหมาย และสามารถนำไปใช้ประกอบการวางแผนและพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาระบบสมองกลอัจฉริยะ (Embedded system) และการพัฒนาสมการพยากรณ์ความเค็มของน้ำด้วย Machine Learning (โดยเฉพาะ LSTM) เป็นนวัตกรรมที่สำคัญของงานวิจัยนี้ การใช้เทคโนโลยี IoT และ Machine Learning ทำให้สามารถเฝ้าระวังและพยากรณ์การรุกล้ำของน้ำเค็มได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที การวัดพารามิเตอร์ 11 ตัวช่วยให้ได้ข้อมูลครอบคลุม และการใช้ LSTM ซึ่งเป็นเทคนิคที่เหมาะสมกับข้อมูลอนุกรมเวลา จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการพยากรณ์ นับว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือนด้วย Big data เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญ ระบบนี้จะช่วยให้ประชาชนได้รับรู้สถานการณ์และเตรียมรับมือกับปัญหาได้อย่างทันท่วงที การใช้ Big data ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีความละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ทำให้สามารถแจ้งเตือนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงสามารถใช้ข้อมูลในการวางแผนจัดการทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกหลายด้าน เช่น การศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการรุกล้ำของน้ำเค็มอย่างละเอียด การศึกษาความยั่งยืนของระบบที่พัฒนาขึ้นในระยะยาว รวมถึงการขยายขอบเขตการศึกษาไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่ประสบปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม การศึกษาความยอมรับและการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อระบบที่พัฒนาขึ้น ก็เป็นส่วนสำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อให้เกิดการยอมรับและการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสรุป งานวิจัยชิ้นนี้มีความสำคัญและน่าสนใจ เนื่องจากนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้แก้ปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน การศึกษาที่ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์และสังคม ทำให้ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และสามารถเป็นต้นแบบสำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่อื่นๆ ที่มีปัญหาคล้ายคลึงกัน
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมการจัดการทรัพยากรน้ำ: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบการจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม โดยเฉพาะการพัฒนาแบบจำลองการพยากรณ์และระบบเตือนภัยล่วงหน้า
-
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT): งานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT, Big data, และ Machine learning ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรม ICT การพัฒนาระบบสมองกลอัจฉริยะและระบบเฝ้าระวัง เป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต
-
อุตสาหกรรมเกษตรกรรม: การรุกล้ำของน้ำเค็มส่งผลกระทบต่อการเกษตรโดยตรง งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทคนิคการเกษตรที่ทนทานต่อความเค็ม และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่การเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการอนุรักษ์แหล่งน้ำจืด การพัฒนาระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือน ช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างทันท่วงที
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะสมกับผู้ประกอบอาชีพหลายสาขา เช่น:
-
นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ และการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ข้อมูลและวิธีการวิเคราะห์ในงานวิจัยนี้ เป็นประโยชน์ต่อการทำงานวิจัยและการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
-
วิศวกรสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบและพัฒนาระบบ เช่น ระบบสมองกลอัจฉริยะ และระบบเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับวิศวกรสิ่งแวดล้อม
-
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist): งานวิจัยนี้ใช้เทคนิค Machine Learning และการวิเคราะห์ Big data ซึ่งเป็นความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
-
นักวิจัยด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ: งานวิจัยนี้ศึกษาการจัดการทรัพยากรน้ำ และการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม ข้อมูลและผลการวิจัย สามารถนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
-
เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ: ผลการวิจัยสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนและตัดสินใจในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแก้ไขปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็มในพื้นที่ต่างๆ
| รหัสโครงการ : | 109684 |
| หัวหน้าโครงการ : | นายปรัชญ์ อินทรศักดิ์สิทธิ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | แผนงาน หรือชุดโครงการ |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็ม2. เพื่อพัฒนาและออกแบบระบบสมองกลอัจฉริยะ (Embedded system) สำหรับการจัดการปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน3. เพื่อพัฒนารูปแบบการพยากรณ์สำหรับการจัดการปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วย Machine Learning4. เพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือน สำหรับการจัดการปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยข้อมูล Big data |
นายปรัชญ์ อินทรศักดิ์สิทธิ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ขอนแก่น, นครนายก, ปทุมธานี.
นายปรัชญ์ อินทรศักดิ์สิทธิ์. 2564. "การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things". มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ขอนแก่น, นครนายก, ปทุมธานี.
นายปรัชญ์ อินทรศักดิ์สิทธิ์. "การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things". มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2564. ขอนแก่น, นครนายก, ปทุมธานี.
นายปรัชญ์ อินทรศักดิ์สิทธิ์. การพัฒนารูปแบบการจัดการคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ประสบปัญหาการรุกล้ำจากน้ำเค็มอย่างยั่งยืน ด้วยระบบ Internet of things. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2564. ขอนแก่น, นครนายก, ปทุมธานี.