ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย" นี้ เป็นการศึกษาเชิงปริมาณที่มุ่งวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มเยาวชนไทย งานวิจัยนี้มีความสำคัญและน่าสนใจในหลายแง่มุม จุดแข็งของงานวิจัยนี้ คือ การสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วย 4 แบบวัด ได้แก่ พฤติกรรมการมีจิตอาสา, พฤติกรรมสืบสานวัฒนธรรม, พฤติกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตพอเพียง การสร้างเครื่องมือวัดนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การศึกษาสามารถวัดและวิเคราะห์พฤติกรรมได้อย่างเป็นระบบและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การใช้แบบจำลองการถดถอยพหุคูณช่วยให้สามารถวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมได้อย่างครอบคลุม โดยพิจารณาปัจจัยเชิงเหตุแบบบูรณาการทั้งจิตลักษณะเดิม สถานการณ์ และจิตลักษณะตามสถานการณ์ การวิเคราะห์แบบนี้ช่วยให้เข้าใจกลไกความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ และพฤติกรรมได้อย่างลึกซึ้ง ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าปัจจัยต่างๆ เช่น การเห็นแบบอย่างจากคนรอบข้าง การเห็นแบบอย่างจากสื่อ ทัศนคติ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และลักษณะมุ่งอนาคตควบคุมตน มีอิทธิพลอย่างสำคัญต่อพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเห็นแบบอย่างจากคนรอบข้างและสื่อมีอิทธิพลสูงต่อพฤติกรรมทุกด้าน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการสร้างแบบอย่างที่ดีและการใช้สื่อในการส่งเสริมพฤติกรรมเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น การศึกษาใช้กลุ่มตัวอย่างเพียง 800 คน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการสรุปผลไปยังประชากรทั้งหมดของเยาวชนไทย นอกจากนี้ การศึกษาไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และระดับการศึกษา ซึ่งอาจทำให้ผลการวิจัยไม่ครอบคลุมทุกมิติ แม้จะมีการจำกัดขอบเขตการศึกษาเฉพาะปัจจัยที่ระบุไว้ แต่การขยายการวิจัยไปสู่ปัจจัยอื่นๆ จะช่วยให้ผลการวิจัยมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อีกทั้งการศึกษาควรมีการวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการสร้างแบบอย่างกิจกรรมการพัฒนาบุคคลและชุมชน ควรมีการศึกษาเชิงคุณภาพเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้แบบอย่างกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง การพัฒนาเครื่องมือวัดก็ควรมีการทดสอบความเที่ยงตรงและความเชื่อถือได้ในกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครื่องมือวัดและผลการวิจัย
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาชุมชน และการตลาดเชิงสังคม ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการศึกษา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อความยั่งยืน เหตุผลคือ งานวิจัยนี้ได้ศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ส่งเสริมความยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและชุมชน ความรู้จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรม การออกแบบกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรม และการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพหลายสาขา เช่น นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาชุมชน ครู อาจารย์ นักวิชาการ และผู้ที่ทำงานด้านการตลาดเชิงสังคม เหตุผลคือ งานวิจัยนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเยาวชน และเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแผนการทำงาน การออกแบบกิจกรรม และการประเมินผลในด้านต่างๆ เช่น การวางแผนการศึกษา การให้คำปรึกษา การพัฒนาชุมชน และการสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาดที่ส่งเสริมคุณค่าเชิงบวก
| รหัสโครงการ : | 7503 |
| หัวหน้าโครงการ : | รศ.ดร. อนันต์ แย้มเยื้อน |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1) เพื่อสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดพฤติกรรมการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย 2) เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงเหตุแบบบูรณาการทางจิตลักษณะเดิม สถานการณ์ และจิตลักษณะตามสถานการณ์ที่มีผลต่อพฤติกรรมการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย 3) เพื่อสร้างรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย อันนำไปสู่การเสนอแนะต้นแบบกิจกรรมการพัฒนาบุคคลและชุมชนที่มีประสิทธิภาพสูงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย จากวัตถุประสงค์ของการวิจัยข้างต้น จึงกำหนดโจทย์สำหรับการวิจัยดังนี้ 1) เครื่องมือวัดพฤติกรรมการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เหมาะสมสำหรับเยาวชนไทยมีความตรงในเนื้อหาและความเชื่อถือได้ของแบบวัดในระดับใด 2) จิตลักษณะเดิม สถานการณ์ และจิตลักษณะตามสถานการณ์ จะร่วมกันทำนายพฤติกรรมการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทยได้มากน้อยเพียงใด และมีลำดับตัวทำนายอย่างไรบ้าง 3) พฤติกรรมการดำรงชีพตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย ส่งผลต่อการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การได้อย่างไร 4) รูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทยที่มาจากตัวแปรในลำดับท้ายๆ จะนำไปสู่การสร้างต้นแบบกิจกรรมการพัฒนาบุคคลและชุมชนที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างไร |
รศ.ดร. อนันต์ แย้มเยื้อน. (2563). ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ตรัง, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, ปทุมธานี, พิษณุโลก, ภูเก็ต, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ร้อยเอ็ด, ลำปาง, สงขลา, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี.
รศ.ดร. อนันต์ แย้มเยื้อน. 2563. "ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ตรัง, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, ปทุมธานี, พิษณุโลก, ภูเก็ต, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ร้อยเอ็ด, ลำปาง, สงขลา, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี.
รศ.ดร. อนันต์ แย้มเยื้อน. "ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 2563. กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ตรัง, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, ปทุมธานี, พิษณุโลก, ภูเก็ต, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ร้อยเอ็ด, ลำปาง, สงขลา, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี.
รศ.ดร. อนันต์ แย้มเยื้อน. ปัจจัยเชิงเหตุทางจิตลักษณะและสถานการณ์ของพฤติกรรมการดำรงชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของเยาวชนไทย. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์; 2563. กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ตรัง, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, ปทุมธานี, พิษณุโลก, ภูเก็ต, มหาสารคาม, แม่ฮ่องสอน, ร้อยเอ็ด, ลำปาง, สงขลา, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี.