กลุ่มข้อมูลด้านมนุษย์ศาสตร์

การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

... 5 มีนาคม 2568
การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยเรื่อง “การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” เป็นงานวิจัยเชิงปฏิบัติการที่มุ่งเน้นการนำองค์ความรู้ดั้งเดิมด้านการแกะสลักไม้ของเมืองน่านมาพัฒนาและต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน งานวิจัยนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การรวบรวมและจัดระบบองค์ความรู้ แต่ยังก้าวไปสู่การประยุกต์ใช้ความรู้ดังกล่าวให้เข้ากับบริบทปัจจุบันและความต้องการของตลาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งในทั้งมิติทางวัฒนธรรมและมิติทางเศรษฐกิจ

จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการบูรณาการองค์ความรู้ด้านต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการรวบรวมองค์ความรู้ดั้งเดิมเกี่ยวกับการแกะสลักพระไม้ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่มีความประณีตและเป็นเอกลักษณ์ของเมืองน่าน จากนั้นนำองค์ความรู้ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยอื่นๆ เช่น หัวเรือน่าน เพื่อสร้างความหลากหลายและขยายตลาดให้กว้างขึ้น การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงานใหม่ๆ นี้ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กว้างขึ้น และสร้างความแตกต่างจากสินค้าทั่วไปในตลาด

กระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของงานวิจัยนี้ การจัดกิจกรรมอบรมและการสร้างคู่มือองค์ความรู้ ช่วยให้ชุมชนสามารถเข้าถึงและเรียนรู้การแกะสลักไม้ได้อย่างทั่วถึง การมีส่วนร่วมของชุมชนในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้ชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของและมีแรงจูงใจในการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง การทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น วัดมหาโพธิ์ เทศบาลเมืองน่าน อพท. น่าน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน และคณะกรรมการกองทุนเพื่อการอนุรักษ์อาคารเก่าเมืองน่าน ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง สนับสนุนการดำเนินงานและการเผยแพร่ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ งานวิจัยยังคำนึงถึงความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การนำไม้เหลือใช้มาใช้ในการแกะสลัก ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การสร้างรายได้เสริมให้กับผู้เข้ารับการอบรม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะการนำผลงานไปจัดแสดงที่ศูนย์ล่องน่าน ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการสร้างอาชีพ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาจต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แต่โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของการนำองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชุมชนอื่นๆ ที่มีศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมได้ การเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับโครงการ และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการองค์ความรู้ การสร้างเครือข่าย และการมีส่วนร่วมของชุมชน ในกระบวนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมต่างๆ ดังต่อไปนี้:

  1. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: งานวิจัยนี้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองน่าน ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดกิจกรรมอบรมและการจัดแสดงผลงาน ช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

  2. อุตสาหกรรมหัตถกรรมและของที่ระลึก: งานวิจัยนี้ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่มีคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ โดยการนำองค์ความรู้ดั้งเดิมมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย ทำให้สินค้ามีความโดดเด่นและน่าสนใจ สามารถแข่งขันในตลาดได้ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

  3. อุตสาหกรรมการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นกรณีศึกษาในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้และการถ่ายทอดองค์ความรู้ สามารถนำไปปรับใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถแข่งขันในตลาดได้

  4. อุตสาหกรรมการศึกษาและฝึกอบรม: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นหลักสูตรการฝึกอบรม เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะเกี่ยวกับการแกะสลักไม้ให้กับผู้สนใจ การมีส่วนร่วมของชุมชนในการเรียนรู้ จะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้เรียนได้

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ดังต่อไปนี้:

  1. ช่างแกะสลักไม้: งานวิจัยนี้ช่วยยกระดับทักษะและความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้ โดยการนำเสนอเทคนิคและแนวทางการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ช่างแกะสลักไม้สามารถนำความรู้ที่ได้จากงานวิจัยไปปรับใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ และสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้า

  2. นักออกแบบผลิตภัณฑ์: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้และวัฒนธรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ นักออกแบบผลิตภัณฑ์สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่น และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้

  3. นักท่องเที่ยววิทยา: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการจัดทำหลักสูตรการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการแกะสลักไม้และวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยววิทยาสามารถนำความรู้ไปใช้ในการออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยว และสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยว

  4. ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน: งานวิจัยนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างแบรนด์ และวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้และวัฒนธรรมท้องถิ่นมาใช้ เพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนให้กับธุรกิจ

  5. นักวิชาการและนักวิจัย: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นกรณีศึกษา หรือเป็นพื้นฐานในการทำวิจัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การอนุรักษ์วัฒนธรรม และการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 105126
หัวหน้าโครงการ : ศาสตราจารย์ ดร. ณวิทย์ อ่องแสวงชัย
ปีงบประมาณ : 2564
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านมนุษย์ศาสตร์
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1. เผยแพร่และผลักดันการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักพระไม้ มาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ร่วมสมัย โดยการสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงานเมืองน่านในลักษณะอื่น เช่น หัวเรือน่าน เพื่อให้เกิดการสืบทอดการแกะสลัก ที่สอดคล้องกับความต้องการปัจจุบัน อันจะทำให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต จากเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน ที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิมของชุมชนอย่างสร้างสรรค์2.เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ และกลไกในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวบนฐานวัฒนธรรมด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เมืองน่าน

ศาสตราจารย์ ดร. ณวิทย์ อ่องแสวงชัย. (2564). การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. น่าน.

ศาสตราจารย์ ดร. ณวิทย์ อ่องแสวงชัย. 2564. "การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. น่าน.

ศาสตราจารย์ ดร. ณวิทย์ อ่องแสวงชัย. "การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2564. น่าน.

ศาสตราจารย์ ดร. ณวิทย์ อ่องแสวงชัย. การจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะสลักไม้เมืองน่าน สู่การสร้างเอกลักษณ์ของชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2564. น่าน.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา