การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน" นี้ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์และยกระดับคุณค่าของภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาในจังหวัดอุบลราชธานี โดยนำหลักการของเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน งานวิจัยนี้มีความน่าสนใจและมีความสำคัญในหลายๆ ด้าน
ประการแรก งานวิจัยนี้ได้ทำการวิเคราะห์คุณค่าของภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาอย่างละเอียด โดยแบ่งคุณค่าออกเป็น 5 มิติ ได้แก่ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ คุณค่าด้านภูมิปัญญาเฉพาะ คุณค่าทางสังคม และคุณค่าทางจิตใจ การวิเคราะห์เชิงลึกในมิติต่างๆ นี้ ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาไม่ใช่เพียงแค่ทักษะในการทำเทียนเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี การคงไว้ซึ่งคุณค่าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
ประการที่สอง งานวิจัยนี้เสนอรูปแบบการยกระดับคุณค่าและมูลค่าของภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาอย่างเป็นระบบ โดยเน้นการบูรณาการกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รูปแบบการยกระดับคุณค่าที่เสนอประกอบด้วย การอนุรักษ์สืบสานภูมิปัญญา การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การจัดทำชุดองค์ความรู้ และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ส่วนรูปแบบการยกระดับมูลค่า เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก และการสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยว การผสมผสานกลยุทธ์ทั้งสองด้านนี้ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ประการที่สาม งานวิจัยนี้ให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ และการส่งมอบองค์ความรู้ให้กับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ การถ่ายทอดองค์ความรู้ในวงกว้างเช่นนี้ จะช่วยให้ภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาสามารถขยายผลและคงอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของหน่วยงานต่างๆ ยังช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนในการพัฒนาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การศึกษาครอบคลุมเพียง 4 ชุมชน อาจไม่สามารถสะท้อนภาพรวมของภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาในจังหวัดอุบลราชธานีได้ทั้งหมด และผลการวิจัยอาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความครอบคลุมและความน่าเชื่อถือ แต่โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์อย่างมากต่อการอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเอาหลักการของเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาใช้ เป็นแนวทางที่น่าสนใจและควรนำไปประยุกต์ใช้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นอื่นๆ ต่อไป
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อุตสาหกรรมหัตถกรรม และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
เหตุผล:
-
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับการทำเทียนพรรษา ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นของจังหวัดอุบลราชธานี การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรม
-
อุตสาหกรรมหัตถกรรม: การทำเทียนพรรษาเป็นหัตถกรรมที่มีความประณีต และมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ งานวิจัยนี้ช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากเทียนพรรษา และการสร้างแบรนด์ ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม
-
อุตสาหกรรมสร้างสรรค์: งานวิจัยนี้ใช้หลักการของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนำภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษามาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด เช่น การจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป การออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก และการสร้างแบรนด์
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพนักออกแบบผลิตภัณฑ์ นักท่องเที่ยววิทยา นักวิชาการด้านวัฒนธรรม ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม
เหตุผล:
-
นักออกแบบผลิตภัณฑ์: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเทียนพรรษา โดยนำเอาคุณค่าทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสาน
-
นักท่องเที่ยววิทยา: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-
นักวิชาการด้านวัฒนธรรม: งานวิจัยนี้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สามารถนำไปใช้ในการวิจัยเชิงลึก และการศึกษาต่อยอดเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
-
ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชน: งานวิจัยนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษามาพัฒนาเป็นธุรกิจ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
-
เจ้าหน้าที่ภาครัฐ: งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลและแนวทางในการกำหนดนโยบาย และแผนการพัฒนา เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ และการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น
| รหัสโครงการ : | 105149 |
| หัวหน้าโครงการ : | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวภัทร ศรีจองแสง |
| ปีงบประมาณ : | 2564 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อวิเคราะห์คุณค่าอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและองค์ความรู้ของภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาของชุมชนในจังหวัดอุบลราชธานี2. เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน3. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้รูปแบบการยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวภัทร ศรีจองแสง. (2564). การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. อุบลราชธานี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวภัทร ศรีจองแสง. 2564. "การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน". มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. อุบลราชธานี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวภัทร ศรีจองแสง. "การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน". มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 2564. อุบลราชธานี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวภัทร ศรีจองแสง. การยกระดับคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีบนฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชน. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี; 2564. อุบลราชธานี.