กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ

การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว

... 15 มีนาคม 2568
การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้ศึกษาการผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งทางการเกษตร ได้แก่ แกลบข้าวและฟางข้าว เพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีตกค้างจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงปลูกผักสวนครัว จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการนำวัสดุเหลือใช้มาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มมูลค่าให้กับเศษวัสดุทางการเกษตร งานวิจัยได้ทำการทดลองโดยใช้แกลบข้าวและฟางข้าวในอัตราส่วนต่างๆ ภายใต้เงื่อนไขอุณหภูมิและระยะเวลาการเผาที่แตกต่างกัน โดยใช้เตาปฏิกรณ์แบบควบคุมอุณหภูมิ เตาต้นแบบในชุมชน และเตาเผาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการผลิตถ่านชีวภาพจากวิธีการต่างๆ

การประเมินศักยภาพของถ่านชีวภาพนั้น งานวิจัยมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ โดยเฉพาะค่าความร้อน พื้นที่ผิว ปริมาตรรูพรุน และปริมาตรรวมในรูพรุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการดูดซับสารเคมี ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าถ่านชีวภาพจากแกลบข้าวมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารเคมีสูงกว่าฟางข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลิตที่อุณหภูมิ 450 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 60 นาที ด้วยเตาปฏิกรณ์แบบเบดเคลื่อนที่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการควบคุมกระบวนการผลิตที่มีผลต่อคุณภาพของถ่านชีวภาพ

นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้ทำการทดลองในแปลงปลูกผักสวนครัวจริง เพื่อประเมินประสิทธิภาพของถ่านชีวภาพในการกำจัดสารเคมีตกค้าง ผลการทดลองพบว่าถ่านชีวภาพจากฟางข้าว (อัตราส่วน 0:1) ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการลดสารเคมีตกค้างหลังจากผ่านไป 15 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการนำถ่านชีวภาพมาใช้ในการเกษตรอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังระบุถึงข้อจำกัด เช่น ควรศึกษาปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการดูดซับเพิ่มเติม เช่น ระยะเวลา ปริมาณของถ่าน ความเข้มข้นและชนิดของสารเคมี ชนิดของดินและผัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและครอบคลุมยิ่งขึ้น

การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตถ่านชีวภาพให้กับกลุ่มเป้าหมายเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของงานวิจัยนี้ การนำความรู้และเทคโนโลยีที่ได้จากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในระดับชุมชนจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบเกษตรกรรม การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเตาเผาแบบต่างๆ (เตาปฏิกรณ์แบบควบคุมอุณหภูมิ เตาต้นแบบในชุมชน และเตาเผาแบบดั้งเดิม) ยังช่วยให้เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความพร้อมของชุมชนได้อีกด้วย การศึกษาจึงครอบคลุมทั้งด้านการวิจัยและการนำไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

  1. อุตสาหกรรมการเกษตร: งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการนำของเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์ ช่วยลดต้นทุนการกำจัดขยะ เพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ และลดการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่งผลดีต่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ยังสามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เช่น ปุ๋ยชีวภาพ หรือสารปรับปรุงดิน

  2. อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม: การนำของเหลือทิ้งทางการเกษตรมาผลิตถ่านชีวภาพเพื่อกำจัดสารเคมี ช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมีอันตราย และส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน จึงเหมาะสมกับอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  3. อุตสาหกรรมพลังงานชีวมวล: ถ่านชีวภาพที่ได้จากการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลได้ เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้อีกทางหนึ่ง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับบุคคลากรในหลายอาชีพ เช่น:

  1. เกษตรกร: เกษตรกรสามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปปรับใช้ในการผลิตถ่านชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาของตนเอง เพื่อลดต้นทุนการเกษตร และลดการพึ่งพาสารเคมี นำไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  2. นักวิจัยทางการเกษตร: งานวิจัยนี้เป็นฐานข้อมูลที่ดีสำหรับนักวิจัยที่สนใจศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิตถ่านชีวภาพ การดูดซับสารเคมี และการนำไปประยุกต์ใช้ในภาคเกษตรกรรม สามารถนำไปต่อยอดวิจัยในด้านอื่นๆ เช่น การพัฒนาประสิทธิภาพของถ่านชีวภาพ หรือการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  3. วิศวกรสิ่งแวดล้อม: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถ่านชีวภาพที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการออกแบบระบบการจัดการขยะทางการเกษตรอย่างยั่งยืน

  4. ผู้ประกอบการ: สามารถนำเทคโนโลยีการผลิตถ่านชีวภาพไปต่อยอดเป็นธุรกิจ สร้างรายได้ และสร้างงานในชุมชน

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568
รหัสโครงการ : 176875
หัวหน้าโครงการ : ดร. นรานันท์ ขำมณี
ปีงบประมาณ : 2564
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1) เพื่อประเมินศักยภาพแกลบข้าวและฟางข้าวจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว2) เพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ของถ่านชีวภาพในสภาวะที่แตกต่างกัน (อุณหภูมิและระยะเวลา)ด้วยเตาปฏิกรณ์แบบควบคุมอุณหภูมิเตาต้นแบบในชุมชนและเตาเผาแบบดั้งเดิม3) เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตถ่านชีวภาพจากแกลบข้าวและฟางข้าวเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัวจากการผลิตด้วยเตาต้นแบบและเตาเผาแบบดั้งเดิม

ดร. นรานันท์ ขำมณี. (2564). การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. สุราษฎร์ธานี.

ดร. นรานันท์ ขำมณี. 2564. "การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว". มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. สุราษฎร์ธานี.

ดร. นรานันท์ ขำมณี. "การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว". มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 2564. สุราษฎร์ธานี.

ดร. นรานันท์ ขำมณี. การผลิตถ่านชีวภาพจากของเหลือทิ้งเพื่อใช้ในการกำจัดสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชในแปลงพืชผักสวนครัว. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี; 2564. สุราษฎร์ธานี.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา